วันพุธที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

Love Mechanics กลรักรุ่นพี่ CH.09 #เวลาอ่อนแอก็ขอแค่คนปลอบ









Love Mechanics กลรักรุ่นพี่

CH.09







    ผมประกบปากลงกับปากมาร์คอีกครั้ง มันก็เปิดปากออกจูบตอบผม เราปรับองศาของใบหน้าให้จูบถนัดขึ้นแล้วค่อยๆ ป้อนรสจูบให้กันและกัน จะเรื่องอะไรตอนนี้ผมขอพักไว้ก่อน ผมขอสนใจคนตรงหน้าตอนนี้ก่อน คำพูดอ้อนวอนเมื่อกี้ยังติดอยู่ที่หูผม หัวใจผมยังเต้นแรงระรัว และปากของเราสองคนยังทำงานอย่างดีเหมือนเดิม
          ผมผละออกจากปากหวานของมาร์ค ก้มลงแล้วกดปากกับซอกคอสีสวย คนที่ยืนชิดกันอยู่ก็เอียงคอให้ผมจูบเป็นอย่างดี มือของมาร์คเลื่อนขึ้นมาลูบที่แผ่นหลังผม ผมกอดเอวสอบเข้าใกล้ตัวแล้วกดจูบซ้ำๆ ก่อนจะเอียงหน้าจูบที่สันกราม เหลือบตามองคนหน้าหล่อที่กำลังปรือตาและหอบหายใจแล้วก็ต้องกลืนน้ำลายลงคอ

          ทำไมมันเซ็กซี่อย่างนี้วะ

          ผมจูบปากมาร์คแล้วดันตัวมันไปที่โซฟา ขายาวของมาร์คก็ก้าวตามที่ผมบังคับ มันนั่งลงที่พนักพิงและผมก็ก้มลงจูบมันต่อ ปากมาร์คเป็นอะไรในร่างกายมันที่ผมชอบมากถึงมากที่สุด
          “อืม” เสียงครางที่ดังออกมาพร้อมกับแรงดันทำให้ผมยอมขยับหน้าออกมา มองสบตาคนตรงหน้าที่หน้ากำลังขึ้นสีแล้วกระตุกยิ้มมุมปากให้มัน นั่นยิ่งทำให้หน้านิ่งๆ ของมาร์คแดงขึ้นไปอีก
          “เขิน?” ผมเลิกคิ้วถามมันในสิ่งที่ผมรู้คำตอบอยู่แล้ว ผมถามทั้งๆ ที่รู้เพราะการแสดงออกของมาร์คตอนนี้มันทำให้ผมยิ้ม
          “เปล่า” เสียงแหบตอบในลำคอพร้อมกับสายตาที่หลุบลงไปมองมือตัวเอง
          “หึ!” ผมหัวเราะในลำคอแล้วก้าวเข้าไปชิดตัวมัน จับคางแหลมให้เชิดขึ้นพร้อมๆ กับป้อนจูบให้มันอีก

          ผมต้อนมาร์คหนักขึ้นเรื่อยๆ จนมันต้องนอนราบลงกับโซฟา ข้อพับขายังติดอยู่ที่พนักพิงแต่ผมไม่สนใจ ก้าวเข้าไปแยกขายาวๆ นั่นออกแล้วแทรกตัวเข้าไปที่หว่างขามัน ก้มลงจูบซอกคอสีสวยพลางปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีขาวของมาร์คไปด้วย
          “อือ” เสียงครางของคนใต้ร่างเป็นอีกอย่างหนึ่งที่กระตุ้นอารมณ์ผมตอนนี้ แถมเสียงแหบๆ ของมาร์คมันยังกระตุ้นผมได้ดีสุดๆ
          “อืม” ผมไล่จูบตั้งแต่ซอกคอลงมาที่หน้าอกกว้างที่กำลังกระเพื่อมตามแรงหายใจหนักๆ ของเจ้าของมัน จูบลงที่เนินอกนั่นพร้อมกับวางมือลงที่หน้าอกอีกข้าง ผมเพิ่งรู้ชัดๆ ก็ตอนนี้แหละว่าแผ่นอกแข็งๆ ของผู้ชายก็ทำให้เกิดอารมณ์ได้เหมือนกัน
          “อ่าอื้อ” ผมดูดลงที่เม็ดสีสวยของมาร์คแล้วเขี่ยอีกข้างด้วยมือของผม เสียงครางอืออาเป็นสิ่งที่ผมชอบใจไม่น้อย ชอบพอๆ กับอาการบิดไปมาของมัน
          “อืมถอดเสื้อหน่อย” ผมจูบแรงๆ ที่กลางอกก่อนจะเลื่อนตัวลงมาเรื่อยๆ สาบเสื้อสีขาวแยกออกจากกันและผมรู้สึกว่ามันเกะกะจนต้องขอให้มาร์คถอดมันออก
          คนด้านล่างช้อนตามองผม ร่างที่บางกว่าผมเล็กน้อยลุกขึ้นนั่งแล้วค่อยๆ ถอดเสื้อสีขาวนั่นออก จังหวะที่มันถอดเสื้อออกสายตาของมันยังจ้องอยู่ที่ผม และนั่นทำให้ผมต้องแลบลิ้นเลียริมฝีปากที่แห้งผากของตัวเอง

          ใครบอกว่าผู้ชายยั่วไม่ได้ เดินมาตบหน้ากูตอนนี้เลยเถอะ

          “อื้อ~” ผมโถมตัวลงจูบมาร์คอีกครั้งและอีกครั้ง คนที่อายุน้อยกว่าก็นั่งหย่อนขาให้ผมจูบอย่างดี แต่ขามันกลับไปอยู่ดีๆ
          “มาร์ค” ผมว่าเสียงดุเมื่อรับรู้ถึงสัมผัสตรงกลางลำตัว หัวเข่าของมาร์คมันขยับอยู่ตรงเป้ากางเกงของผมพอดีและที่สำคัญไอ้เด็กนี่มันจงใจ
          “หืม?” ยังมีหน้ามาเลิกคิ้วแล้วก็ส่งยิ้มกวนๆ มาให้อีก ผมปลดเข็มขัดก่อนจะถอดกางเกงออกแล้วขยับเข้าไปหาคนหน้าหล่อที่นั่งมองผมอยู่
          “อยากเล่นก็ขอดีๆ” ผมว่าแล้วกระตุกยิ้ม ตาเรียวหลุบลงมองผมแล้วแก้มมันก็ขึ้นสีระเรื่อ ผมขยับตัวเข้าไปชิดก่อนจะจับตัวเองขึ้นมา มาร์คช้อนตาขึ้นมองผมก่อนจะแลบลิ้นออกมาเลียริมฝีปากของมัน “ไม่เอาอย่าอ่อย” ผมว่าแล้วดันตัวเข้าหาคนเด็กกว่า มันแลบลิ้นออกมาชิมตัวผมและนั่นทำให้ขนตามตัวผมลุกชัน
          “อืม” มาร์คขยับเข้ามาชิดแล้วก้มลงจัดการกับส่วนนั้นของผม ลิ้นที่ตวัดเลียอย่างรู้จุดทำให้ผมต้องซีดปากแล้วเงยหน้าขึ้นหอบหายใจ
          “อ่าห์อืม” เสียงครางที่ออกมาจากลำคออย่างไม่ตั้งใจทำให้อีกคนช้อนตาขึ้นมอง ผมที่มองอยู่ก่อนแล้วยิ่งมีอารมณ์เข้าไปใหญ่ ท่าที่มาร์คมันคลานอยู่บนโซฟา ปากไม่ห่างจากส่วนนั้นของผม กับสายตาอ้อนๆ ที่ผมไม่คิดว่าคนอย่างมันจะทำเป็น ทำเอาเลือดในตัวผมแล่นมารวมกันตรงใบหน้า
          “อื้อจุ๊บจ๊วบ!” เสียงดูดยังคงดังอยู่ต่อเนื่อง น้ำลายเฉอะแฉะหยดลงตามพรมข้างล่างแต่มันก็ไม่น่าสนใจเท่ากับคนตรงหน้า ผมถอดเสื้อที่เกะกะของตัวเองออกก่อนจะค่อยๆ ดึงตัวออกจากมาร์ค
          “เก่งจังนะเรื่องแบบนี้” ผมว่ามันที่กำลังนั่งเช็ดน้ำลายออกจากปากตัวเอง ตาเรียวมองมาที่ผมก่อนที่ปากมันจะกระตุกยิ้มและคิ้วสวยข้างเดียวเลิกขึ้นน้อยๆ
          “ให้สอนไหม?”
          “กูสิจะสอนมึง” ผมว่ากลับทันที เกลียดจังเลยสายตาที่มั่นใจของมันนั่นน่ะ อยากควักออกมาแล้วโยนทิ้งแม่ง จะบอกว่าตัวเองผ่านมาเยอะล่ะสิ ของแบบนี้เขาไม่วัดกันที่ปริมาณหรอกนะ เขาวัดที่คุณภาพ
          “จริงดิ?” มาร์คมองผมกวนๆ แล้วกระตุกยิ้ม คนที่นั่งอยู่บนโซฟายืดตัวขึ้นแล้วจูบที่ซอกคอผม มือที่พาดอยู่เอวผมดึงผมเข้าหาอีกแล้วค่อยๆ ลูบขึ้นมาที่แผ่นหลัง
          “อ่ามะมาร์ค” ผมต้องใช้เสียงสั่นๆ เรียกมันไว้เมื่อมันขยับปากลงไปที่หน้าอกของผม ก่อนจะแลบลิ้นแล้วเลียลงตรงนั้น           “อื้อ~” ผมสะดุ้งแล้วก็ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าแอ่นอกให้มันตั้งแต่เมื่อไหร่ มันรู้สึกแบบนี้นี่เองสินะ ตอนที่ผมเล่นกับมันมันก็คงรู้สึกดีแบบนี้สินะ
          “อืม” มันครางแล้วไล่จูบลงมาเรื่อยๆ หยุดที่ตรงหน้าท้องผมแล้วไล่วนจูบซ้ำๆ ก่อนจะขยับลงมาที่กลางลำตัวผมอีก

          ผมมองคนที่คลานเข่าบนโซฟาเล่นกับกลางลำตัวผมอีกครั้ง ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เด้งตัวสวนเข้าปากมัน ทุกครั้งที่มันขยับตัวเข้าออกบั้นท้ายสวยของมันก็ขยับตามด้วย ผมมองตรงส่วนนั้นส่วนที่ผมเคยสัมผัสและเคยทำให้ผมรู้สึกดี ผมยื่นมือลูบลงไปตามแผ่นหลังมาร์ค คนข้างล่างสะดุ้งเล็กน้อยแต่ก็ยังทำให้ผมต่อ ผมลูบวนอยู่แผ่นหลังมันเรื่อยๆ จนหยุดอยู่ที่ขอบกางเกง สอดมือเข้าไปในนั้นแล้วลูบก้นแน่นๆ ของมันผ่านกางเกงชั้นใน

          “อื้อเล่นบ้าอะไรของพี่เนี่ย!” คนเด็กกว่าคายของผมออกจากปากแล้วทะลึ่งตัวขึ้น ทำให้เราหน้าของเราสองคนอยู่ใกล้กันและทำให้ผมได้โอบแผ่นหลังมันเข้ามาชิด ตาที่ฉายแววดุของมันไม่ได้ทำให้ผมกลัวสักเท่าไหร่แต่มันทำให้ผมชอบใจมากกว่า
          “กูไม่เล่น” ผมว่าแล้วโน้มตัวลงกระซิบข้างหูมัน “กูเอาจริง”
          ผมจัดการถอดกางเกงของมาร์คออกพร้อมๆ กับชั้นในของมัน ส่วนกลางลำตัวที่ขายใหญ่ไม่ต่างจากผมกำลังทักทายมือผมอยู่ ผมลูบและกำมันเบาๆ นวดให้มันรู้สึกตาม และมาร์คมันก็ทำในสิ่งที่ผมต้องยิ้ม
          
          มันซบหน้าลงกับไหล่ผมและคราง

          “พะพี่วี อื้อ” ชื่อของผมที่ออกจากปากมันทำให้ผมพอใจมากมากจนผลักตัวมันลงที่โซฟา มาร์คมองมาที่ผมที่กำลังจะขึ้นคร่อมมันแล้วกัดปาก
          “อย่ายั่ว” ผมว่าแล้วยื่นนิ้วไปเขี่ยปากมัน แต่ไอ้เด็กบ้านั่นกลับตวัดลิ้นมาเลียนิ้วผมแล้วดูดเล่น อืมจะทำให้กูคลั่งตายจริงๆ ใช่ไหม
          “เจลอยู่ในห้อง” เสียงแหบเอ่ยบอกหลังจากยอมปล่อยนิ้วผมให้เป็นอิสระ
          “ไม่ใช่ได้ไหม?” จะว่าเห็นแก่ตัวก็ได้ ตอนนี้ผมน่ะอยากจะกินคนที่อยู่ตรงหน้าจะตายอยู่แล้ว
          “ผมก็เจ็บสิ” มันว่าแล้วหน้าหล่อก็เริ่มแสดงอาการไม่พอใจ
          “กูจะทำเบาๆ” ผมบอกแล้วมองตามัน ขอให้มันเชื่อใจและมาร์คก็พยักหน้าอนุญาตหลังจากที่มองตาผมอยู่สักพัก ผมก้มลงจูบคนที่นอนอยู่แล้วค่อยๆ ยื่นมือลงไปข้างล่าง กดนิ้วชี้ลงกับเนื้อนุ่มที่ผมเคยเข้าไปลิ้มลองมาแล้ว
          “อื้อ~” มาร์คส่งเสียงในลำคอแล้วสะดุ้งนิดหน่อย
          “อย่าเกร็ง เข้าไม่ได้” ผมเอ่ยบอกแล้วก้มลงจูบมัน เลื่อนมาจูบที่ซอกคอก่อนจะเล่นกับยอดอกทั้งสองข้าง
          “อ่ะพะพี่วี ผม
          “เจ็บเหรอ?” ผมผ่อนแรงที่ชักนิ้วเข้าออกแล้วเอ่ยถาม แต่คนข้างล่างกลับหน้าแดงก่อนจะช้อนตามองผมแล้วพูดในลำคอเบาๆ
          “สะเสียว”
          “เด็กบ้า!” ผมว่าให้มันก่อนจะขยับนิ้วต่อ
          “อื้อ~” เพิ่มเป็นสองนิ้วและสามนิ้วติดๆ เมื่อรู้สึกถึงการขยายของรูเล็กๆ นั่น ผมก้มลงจูบคนที่กำลังครางอีกครั้ง แม้ว่าเสียงครางของมาร์คจะทำให้ผมรู้สึกดีแต่การจูบมันเป็นอะไรที่ทำให้ผมรู้สึกดีกว่า ผมถอดนิ้วออกเมื่อรู้สึกว่ามาร์คพร้อมสำหรับผมแล้ว แต่ปากเราสองคนยังไม่ห่างจากกัน ผมจูบมันอยู่อย่างนั้นก่อนจะค่อยๆ กดตัวลงช้าๆ
          “อื้อ~ อ้า” แรงทุบที่แผ่นหลังกับปากของมาร์คที่ผละออกจากปากผมอย่างรวดเร็ว ตาเรียวตวัดขึ้นมามองก่อนที่จะส่งเสียงครางออกมายาวๆ เมื่อผมกดเข้าไปทีเดียวจนสุด
          “อืมมม” ผมครางยาวๆ เมื่อรับรู้ถึงแรงตอดรัดที่ทำเอาเนื้อผมเต้นตุบๆ อยู่ในโพรงนั่นไม่หยุด
          “อ่ะไอ้
          “อืม” ผมไม่สนเสียงด่าของมาร์ค เริ่มขยับตัวช้าๆ เมื่อรู้สึกว่าทนไม่ไหว ถ้าแช่ค้างไว้อย่างนั้นผมอาจจะแตกทั้งๆ ที่ยังไม่ทันได้ทำอะไรก็ได้
          “อ่าพี่อื้อ
          “อืมมาร์คอือ” ผมขยับและครางทุกครั้งที่รับรู้ถึงแรงตอดรัด สีหน้าบิดเบี้ยวและปากที่กัดกันอยู่ของมาร์คเพิ่มอารมณ์ผมให้มากขึ้นไปอีก
          “อื้ออ่ะอื้อพี่” กระแทกลงไปแรงๆ เพื่อให้บางนั่นขยับครางเรียกชื่อผม
          “ซี๊ดดด มาร์ค” ผมครางเรียกชื่อมันสลับกับสูดปากคลายความเสียว แรงจากก้นแน่นๆ ที่ขยับสวนเข้ามาทำเอาผมแทบจะคลั่งตายลงตรงนี้ ผมยกขามาร์คขึ้นมาพาดกับแขน เท้าแขนกับโซฟาแล้วกดตัวลงไปเร็วๆ จังหวะรุนแรงขึ้นพอๆ กับอารมณ์ของเราทั้งสองคนทำให้เสียงครางดังอืออาไม่หยุด เสียงกระทบกันของเนื้อมันน่าอายแต่กลับทำให้ผมมีอารมณ์มากขึ้น ผมยื่นมือไปจับส่วนแข็งขืนของมาร์คก่อนจะรูดรั้งให้คนที่อายุอ่อนกว่าตามแรงอารมณ์
          “อ้าพี่วีผมอืม” มาร์คกระตุกก่อนจะปลดปล่อยออกมาแต่ผมยังผมยังชอบช่วงเวลาที่ตัวของมันกลืนกินผมและชอบตอนที่ตัวผมเต้นตุบๆ อยู่ตัวมัน
          “อืม” ผมแช่ตัวไว้ในตัวมาร์คในจังหวะที่คนข้างล่างกระตุกเกร็ง แรงบีบรัดมันมากขึ้นทำให้เสียงครางกระเส่าในลำคอของผมแทบจะกลายเป็นการคำราม
          “อาพี่” หลังจากที่มันปลดปล่อยตัวเองแล้วก้อนนุ่มนิ่มที่กลืนกินตัวผมอยู่ก็เริ่มขยับ
          “อือมาร์ค อืม” บอกกูอีกรอบสิว่ากูนี่คนแรกของมึง ทำไมแม่งเชี่ยวขนาดนี้ ผมพับเก็บทุกคำถามที่มันดังอยู่ในหัวลง จับเอาเอวสอบนั่นกระแทกเข้ามาจนชิดก่อนจะรัวเอวตัวเองตามจังหวะที่ผมต้องการ
          “อ้าพี่วี อาอื้อ” เสียงครางของมาร์คที่ดังขึ้นมันเป็นเหมือนเชื้อเพลิงที่เร่งให้ผมรัวเอวเร็วขึ้น จนถึงจุดหนึ่งที่ในหัวผมขาวโพลน ไม่รับรู้อะไรนอกจากแรงรัดของตัวมาร์คและแรงกระตุกเกร็งของตัวเอง
          “อ่ะอ่าห์” ผมแช่ตัวเองไว้ในนั้นในตอนที่ปลดปล่อย มาร์คมันรีดเอาน้ำจากตัวผมจนแทบจะหมด ผมขยับตัวเข้าออกอีกนิดหน่อยแล้วถอนตัวออกมามองคนที่หอบหายใจอยู่ น้ำสีขาวขุ่นไหลทะลักออกมาตอนที่ผมถอดตัวออกมาจนหมด ไอ้สายตาไม่รักดีของผมก็จ้องมองก้นแน่นๆ ของมาร์คที่กำลังขมิบหลังจากที่ผ่านการร่วมรักแล้ว

          อึก

          ผมกลืนน้ำลายลงคืออึกใหญ่ก่อนจะทำใจเบนสายตาไปทางอื่น แล้วไอ้สิ่งที่ผมมองนอกจากช่องทางสีสวยนั่นก็คือหน้าหล่อๆ ของไอ้มาร์ค เหงื่อที่ผุดขึ้นมาบนตัวมัน ปากบางที่หอบกระเส่าอย่างเซ็กซี่ กับแข้งขาที่แม่งยังอ้าอยู่เหมือนเดิม


ยังไม่จบนะคะ มีต่อเน้ออออ https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1616493&chapter=10

วันเสาร์ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

Love Mechanics กลรักรุ่นพี่ CH.04 #ถ้าไม่อยากเสียใจชอบใครให้รีบบอก





Love Mechanics กลรักรุ่นพี่

CH.04








          “อึก!” ผมเม้มปากแน่นเมื่อรู้สึกถึงความชื้นบริเวณแนวสันกราม พี่วีมันแลบลิ้นออกมาเลียแนวสันกรามผมสลับกับจูบเบาๆ มันขยับไปเรื่อยๆ จนหยุดอยู่แถวๆ หู เหมือนมันจะรู้ว่าผมหายใจติดขัด ผมได้ยินเสียง “หึ” จากมันก่อนที่มันจะขบติ่งหูผมเบาๆ
          “อือ...” ผมครางในลำคอเมื่อมันลูบบริเวณเป้ากางเกงผม
          “ชอบแบบนี้เหรอ” พี่วีถามเสียงพร่าข้างหูให้ผมได้เกร็งกว่าเดิม ถ้าถามว่าผมชอบแบบนี้ไหม ตอบได้เลยว่าชอบ...
          ผมชอบเซ็กส์ที่ออดอ้อนและนุ่มละมุนมากกว่าเซ็กส์ที่ดุดันและเจ็บปวด ที่ผ่านมาผมเลยชอบนอนกับคนตัวเล็กน่ารักมากกว่าผู้ชายที่ขนาดตัวเท่าๆ กัน เพราะมันทำให้ผมรู้สึกอยากปกป้องมากกว่าอยากเอาชนะ มันทำให้ผมรู้สึกว่าการมีคนตัวเล็กๆ มาอ้อนมันรู้สึกดีกว่าการกระแทกใส่กันอย่างเดียว
          “หืมชอบเหรอ?” เสียงทุ้มยังกระเส่าอยู่ข้างหู มือหนาข้างหนึ่งคลึงอยู่กลางลำตัวผมและอีกข้างก็ลูบอยู่ที่แผ่นหลังผม
          “ปล่อยผม” ผมกัดฟันพูดแล้วบอกมันออกไปอย่างนั้น พี่วีผละออกจากตัวผม ยืนมองผมชั่วครู่ก่อนจะทิ้งตัวลงบนเตียง ตาสวยของพี่วีสบกับตาผมก่อนจะเลื่อนมันลงมาเรื่อยๆ แล้วหยุดอยู่กลางลำตัวผม
          “ถ้ากูปล่อยแล้วมึงจะทำยังไงกับมัน” พี่วีว่าทั้งๆ ที่ยังวางสายตาไว้ที่จุดเดิม
          “ผมช่วยตัวเองได้” ผมตอบกลับนิ่งๆ ทั้งๆ ที่อายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน จากที่เมาๆ มามีอารมณ์อย่างนี้แล้วหายเมาไปเลย
          ตอนนี้รู้สึกอย่างเดียวคือเสียหน้า แค่มันลูบ แค่มันจูบ ผมก็แสดงออกจนมันได้เยาะเย้ย ผมเบือนหน้าหนีพี่วีที่เลิกคิ้วมองผม แล้วก้าวไปทางห้องน้ำ

          หมับ!

          พรึ่บ!

          “อึก!” 

          ตัวผมกระตุกแรงๆ แล้วกระแทกเข้ากับคนบนเตียง พี่วีดึงผมให้ลงมานอนทับตัวพี่มันแล้วใช้มืออีกข้างกอดผมเอาไว้ ถึงแม้ว่าผมจะสะบัดตัวแรงๆ แต่มันก็ไม่ได้ช่วยให้แรงรัดจากอีกคนลดลงเลย
          “แต่กูอยากให้มึงช่วยว่ะ” เสียงทุ้มว่าพร้อมกับกดตัวผมให้แนบกับตัวมัน จนผมรู้สึกถึงความอุ่นร้อนใต้ผ้ายีนส์สีซีดผิดระเบียบ
          “ผมไม่ทำ!” ผมว่าใส่หน้าหล่อๆ ของพี่มันแล้วพยายามขืนตัวออก
          “อย่าดิ้นดิวะ!” พี่วีว่าแล้วจับผมพลิกลงกับเตียงก่อนที่มันจะขึ้นคล่อมแล้วกดผมไว้
          “ผมบอกว่า...อือ...ไม่ทำ” ผมปฏิเสธกระท่อนกระแท่นเพราะพี่วีกดตัวมันลงมาถูกับตัวผม
          “กูก็อยากทำ มึงก็อยากทำ ทำไมไม่ล่ะ” พี่วีว่าแล้วยิ้มอย่างผู้เหนือกว่า
          “...” ผมชอบผู้ชาย แต่ไม่ได้หมายความว่าผมจะอ้าขาให้ใครก็ได้
          “เอาอารมณ์ไปลงกับคนไม่รู้เรื่องกูว่ามันไม่แฟร์ว่ะ มาทำกับกูนี่...กูที่รู้ทุกอย่าง”
          ยังไม่ทันที่ผมจะได้ตอบอะไร ปากสวยที่ผู้หญิงหลายคนชอบก็แนบกับปากผม ครั้งนี้ผมไม่ขัดขืน ผมยอมนอนนิ่งๆ ให้พี่มันล่วงล้ำอยู่อย่างนั้น ลิ้นหนากวาดเอารสเหล้าขมๆ จากปากผม ก่อนจะเอามาเกี่ยวลิ้นผม ผมยอมรับว่าพี่วีจูบเก่ง หลายคนคงชอบจูบของมัน และผมจะไม่ปฏิเสธว่าผมก็ชอบ
          ผมไม่รู้สึกอะไรนอกจากรู้สึกแพ้

          เพราะพี่วีมันรู้ทุกอย่าง รู้ว่าผมชอบพี่บาร์มากขนาดไหน รู้ว่าผมเมาเหมือนหมายังไงตอนที่ถูกปฏิเสธ แล้วก็รู้ว่าผมยอมแพ้กับความรักที่ไม่มีหวังอะไรในครังนี้ เพราะมันรู้ไง
          ผมเลยไม่อยากทำกับทำมัน
          ทำเสร็จแล้วมันก็สมเพชผมเหมือนครั้งนั้นน่ะเหรอ
          มันช่วยให้ผมรู้สึกดีขึ้นตรงไหน...

          “นิ่งให้ได้ตลอดเหอะมึง” มันว่าแล้วจูบที่ซอกคอผม จริงอยู่ที่ผมเคลิ้มไปกับมันแต่สุดท้ายผมก็กลับมาคิด...
          “ผมผิดตรงไหนเหรอ ผมทำอะไรผิดนักหนา” ผมถามสิ่งที่ผมคิดอยู่ในใจกับคนตรงหน้า เป็นคำถามที่ผมถามกับตัวเองตั้งแต่ถูกมันจูบ ครั้งที่แล้วมันบอกเพราะผมคิดไม่ดีกับพี่บาร์ แต่ครั้งนี้ผมทำผิดอะไร
          “มึงไม่ผิด...แต่มึงทำให้กูอยาก” พี่มันว่าแล้วกดตัวลงมาเพื่อย้ำคำพูดของตัวเอง
          “อยากก็ไปทำกับเมียพี่ มายุ่งอะไรกับผม” ผมว่ากลับเสียงเข้มพร้อมกับจ้องหน้าคนที่อยู่ด้านบน
          “พอดีวันนี้...เมียกูไม่อยู่ว่ะ”
          “อื้อ~” ผมหลุดเสียงครางเมื่อมันบีบกลางลำตัวผมแรงๆ เค้นจนมันนูนขึ้นกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด ผมดิ้นและถีบมันแต่พี่วีกดขาผมด้วยขาของมันก่อนจะเอื้อมมือมาปลดซิบกางเกงผม
          “กูไม่เคยดูดให้ใครมาก่อนนะ กูบอกเลย”
          “อื้อ!”
          พี่วีก้มลงครอบปากกับเเท่งร้อนที่โผล่พ้นขอบกางเกงของผม มันห่อปากแล้วอมเอาแท่งนั้นเข้าไปจนเกือบจะถึงคอ ก่อนจะค่อยๆ ดูดมันอย่างมีจังหวะให้ผมได้กลั้นเสียงครางแล้วเชิดหน้าหาอากาศ ผมไม่อยากก้มลงไปมอง
          มองมันทำแล้วผมมีอารมณ์...

          “อา...อึก!” ผมอยากจะกลั้นเสียงคราง เพราะไม่อยากให้มันได้ใจแต่รู้สึกว่ามันช่างยากเย็นเหลือเกิน ถึงมันจะบอกว่าไม่เคยทำให้ใครแต่ที่มันกำลังทำให้ผมอยู่ตอนนี้กลับดีมากกว่าที่ใครหลายคนเคยทำให้ผม
          “อุก!...อย่ากลั้น กูอยากฟังมึงคราง” พี่วีว่าจบก็ก้มลงทำต่อให้ผม มือหนาลูบวนอยู่ต้นขาด้านใน อีกมือก็ลูบที่หน้าท้องจนมันเกร็งขึ้นลูก
          “อา...อือ...” สุดท้ายผมก็ต้องยอมแพ้ให้กับพี่วีและความต้องการของตัวเอง
          “อุก...อืม...อย่าเด้งสวน” พี่มันพูดดุๆ แล้วกดขาผมไว้ คำพูดของพี่มันทำให้ผมต้องมองลงไปยังส่วนที่ผลุบเข้าผลุบออกในปากของพี่วี ผมเผลอเด้งสะโพกเข้ากับจังหวะที่มันสร้างตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ รู้แค่ตอนนี้อยากปลดปล่อยเหลือเกิน
          “อ่ะ...อือ...ยะ...หยุด...ทำไม” ผมถามเสียงสั่นๆ ตอนนี้หน้ามันอยู่ระดับเดียวกับสายตาของผม หวังว่ามันคงไม่ให้ผมร้องของเหมือนในนิยายที่เพื่อนผู้หญิงชอบอ่านหรอกนะ เพราะถ้ามันทำอย่างนั้นจริงๆ ผมคงไม่เหลืออะไรเลยล่ะ
          “กูอยากได้ยินมึงคราง...ครางดังๆ” พูดจบพี่วีก็จูบปากผม แต่จูบครั้งนี้มันไม่เหมือนครั้งก่อนๆ ผมอธิบายไม่ถูกวามันเป็นจูบแบบไหน ไม่ใช่อยากเอาชนะ แต่ก็ไม่ได้ทะนุถนอม
          ผมค่อยๆ ยื่นลิ้นเข้าไปเกี่ยวกับลิ้นพี่วี ลิ้นสองลิ้นเกี่ยวพันกันมั่วอยู่ในโพรงปากของผม ที่ผ่านมามันคืออะไรผมขอเลือกที่จะไม่สน ตอนนี้ผมหลับตาและสนแค่ลิ้นชื้นๆ ของพี่วี
          “อืม...” 
          ผมครางเหมือนไม่อยากให้มันผละไปไหน ซึ่งจริงๆ ก็ใช่นั่นแหละ ผมยอมรับว่าผมหลงปากของพี่วี ทั้งๆ ที่ถ้าผมพลาดผมจะโดนซ้ำเติมแค่ไหนแต่ผมก็ยอมแพ้และปล่อยตัวเองให้ทำตามความต้องการ
          
          “ครางออกมาดังๆ นะมาร์ค ผ่านคืนนี้ไปแล้วก็ลืมมันซะ
          “อือ...อืม...” ผมครางอย่างที่พี่มันบอกเมื่อมันลากลิ้นมาเลียที่ตุ่มไตทั้งสองข้างของผม เสื้อผ้าผมอาจจะหลุดหายไปตั้งแต่ตอนที่ผมเคลิ้มกับจูบของพี่มันแต่มันก็ไม่ได้น่าสนใจเท่ากับขนอ่อนของผมที่กำลังลุกชันอยู่ตอนนี้
          “อืม...” พี่วีครางเมื่อผมเผลอจิกมือเข้ากับกลุ่มผมสีดำสนิทของพี่มัน มันเงยหน้าขึ้นมามองผมนิดหน่อยแล้วเลื่อนตัวมาไซร้ซอกคอ
          “อือ...อ่ะ...อย่าดูด” ผมเอ่ยห้ามเมื่อรู้สึกถึงแรงเจ็บจี๊ดที่ซอกคอ รอยเมื่อครั้งที่แล้วไม่รู้ว่ามันหายหรือยังแต่ผมก็ไม่อยากให้มันมีเพิ่มอีก
          
          ยังไงผ่านคืนนี้ไปก็ต้องลืม จะสร้างไว้ให้นึกถึงทำไม

          “อือ...อื้ม~” พี่วีผละออกจากคอแล้วจูบไปตามไหล่ เรื่อยลงไปจนหยุดที่หน้าท้อง ผมเกร็งรับทุกจังหวะจูบของพี่มันพร้อมกับครางอื้ออึงในลำคอ
          “ชอบแบบหวานๆ ไม่ชอบแบบแรงๆ เหรอมึง” พี่วีพูดขึ้นหลังจากผละปากออกจากตัวผม ผมปรือตาปริ่มน้ำมองพี่มันที่กำลังถอดเสื้อตัวเองออก ร่างกายของพี่วี หุ่นของพี่มัน สัดส่วนทุกอย่างไม่ได้ต่างไปจากผมสักเท่าไหร่ เพียงแต่มันดูดีกว่าก็เท่านั้น

          ผมเลิกมองผิวสีสวยของพี่วีตอนที่มันจับขาผมขึ้นพาดบ่า เป็นท่าที่ผมเคยทำกับใครหลายๆ คน แต่ผมเป็นคนทำไง ไม่ใช่นอนให้มันทำอย่างนี้ พี่วีลูบตัวเองสองสามทีก่อนจะเอามาจ่อที่ช่องทางด้านหลังของผม
     
          “ดะ...เดี๋ยว” ผมผลักหน้าท้องที่มีแต่มัดกล้ามไว้ก่อนที่มันจะกดตัวลงมา
          “ถ้ามึงบอกว่าไม่ทำกูจะจับแทงเข้าตอนนี้เลย”
          “ไอ้เหี้ย!” ผมตะโกนหยาบคายออกมาให้มันได้ตวัดตามอง ก็มันทำท่าจะกดเข้าทั้งอย่างนั้นจริงๆ นี่ครับ ผมก็ตกใจสิ
          “เป็นห่าไรของมึง เมื่อกี้ยังดีๆ” มันวางขาผมลงแล้วดึงแขนให้ลุกขึ้นสบตามัน ผมมองมันนิดหน่อยก่อนจะเอี้ยวตัวไปที่ลิ้นชักข้างเตียงแล้วหยิบขวดเจลกับซองสี่เหลี่ยมออกมา
          “เอาไป” ผมยื่นให้คนที่นั่งอารมณ์เสียอยู่ตรงหน้า พี่วีมองที่มือผมก่อนจะกระตุกยิ้มเบาๆ แล้วรับไป
          “หึ! กลัวเป็นด้วยเหรอวะ”
          “ลองมานอนอยู่ตรงนี้ไหมล่ะ” ผมว่าแล้วชี้ตรงตำแหน่งที่ตัวเองเคยนอน
          “พูดมาก” พี่มันว่าแล้วจูบปากผมแรงๆ ดูดดุนและดุดันจนผมทำได้แค่อ้าปากให้มันเอาลิ้นเข้ามาสำรวจในปากผม มือมันบีบเจลไปทาที่แท่งร้อนๆ ของมันแล้วกดผมนอนลง ก่อนจะป้ายเจลที่ช่องทางของผมอีกรอบ “เก็บปากไว้ครางอย่างเดียวก็พอแล้ว”
          
          “อึก...!” 
          
          ผมกลั้นก้อนสะอื้นเมื่อมันกดส่วนหัวลงมา
          
          “ถ้ามึงยังเป็นอย่างงี้กูก็เข้าไม่ได้ และกูจะไม่ให้มึงเสร็จ” พี่วีว่าแล้วเอานิ่วหัวแม่มือมากดที่ส่วนหัวของผมไว้ ภายใต้สายตาดุๆ ของมันนั้นเต็มไปด้วยความอยาก แต่ด้วยขนาดของมันและช่องทางของผมทำให้มันไม่สามารถยัดเข้ามาพรวดเดียวได้แม้จะมีเจลหล่อลื่นช่วยก็ตาม
          “อื้อ~” ผมพยายามที่จะผ่อนคลายพอๆ กับพี่วีที่พยายามจะกดตัวลงมา
          “อย่าเกร็งดิมาร์ค” เสียงแหบทุ้มว่าข้างหูผม แล้วลิ้นชื้นของพี่วีก็ถูกเจ้าของมันยื่นออกมาเล่ยกับติ่งหูผมอีกครั้ง
          “อึก! อือ...” พี่มันกดตัวเองเข้ามาและถอดออกไป ทำอย่างงี้ซ้ำๆ และใช้มือช่วยผมไปด้วย
          “อา...อ่า...” เสียงทุ้มครางในลำคอเมื่อกดตัวเองลงมาได้หมด ผมจุกและเจ็บเกินกว่าจะพูดอะไรออกไปได้ ได้แต่ระบายอารมณ์ทุกอย่างผ่านน้ำตาที่ไหลออกมา ทั้งเจ็บ ทั้งทรมาน ทั้งอยากกอดมัน
          กะ...กู...ขยับ...อา...นะ”
          “อุก! อื้อ~” ยังไม่ทันที่ผมจะอนุญาติ คนที่อยู่บนตัวผมก็ขยับออกไปแล้วกดตัวเข้ามา
          “อา...อืม”
          “อื้ออ้ะ...อ่ะ...อื้อ” ผมครางเมื่อสิ่งใหญ่โตกระแทกเข้ามาในร่างกาย แล้วร่างกายผมก็คงชอบความเจ็บปวดไม่ต่างจากหัวใจถึงได้รัดเขาไว้แน่นเหลือเกิน
          “อือ...กูจะบ้าตาย” พี่วีครางต่ำๆ แล้วเงยหน้าขึ้นสูดปาก จุดเชื่อมต่อของเราสองคนยังขยับเข้าหากันไม่ห่างไปไหน
          “อือ...อ่ะ...บะ...เบา” พี่วีกระแทกลงมาแรงเกินไปจนผมต้องขอให้มันผ่อนแรงลงบ้าง แต่ดูเหมือนว่าคำขอของผมมันจะไม่เป็นผล
          “ฮ่ะ อ่ะ อืมมม”
          “อ่ะ...บะ...อื้อออ”
          “กู...อือ เบา...ไม่ได้” พี่วีกระแทกเข้ามาแรงๆ มือหนาทั้งสองข้างเปลี่ยนมาจับที่เอวผมแล้วกดลงไปพร้อมกับมันที่กระแทกเข้ามา ผมได้แต่เอื้อมมือที่กำลังสั่นไปช่วยตัวเองแทนที่มือพี่วีที่ผละออกไป
          “อื้อ เจ็บ...อ่ะ...” ผมยกมืออีกข้างผลักหน้าท้องของร่างสูงเพื่อให้พี่มันผ่อนแรงลง แต่มันกลับกระแทกแรงกว่าเดิม
          “ฮ่ะ...อ่า อืม” ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่แต่ตัวของเราสองคนเต็มไปด้วยเหงื่อ น้ำตาผมที่ไหลออกมากก็คงจะแห้งไปแล้ว แต่มันก็ไม่น่าสนใจเท่ากับสมองที่ขาวโพลนของผม
          ว่างเปล่า...และรู้สึกดี
          
          “อา...มาร์ค อืม...” พี่วียื่นมือทาเกลี่ยน้ำตาออกจากแก้มแล้วก้มลงมาจูบเบาๆ
          “ฮ่ะ...อื้มมม”
          “ระ...อ่ะ เรียกชื่อ...กู อืมมม หน่อย”
          “อือ...อ่ะ พี่...วี” ไม่รู้ว่าอะไรดลจิตดลใจให้ผมทำตามที่พี่เขาบอก แต่ปากของผมมันเร็วกว่าใจแล้วไง ทั้งครางทั้งเรียกชื่อพี่มันจนหน้าหล่อระบายยิ้มอ่อนๆ ออกมา
          “อืม...เด็กดี” 
          เด็กพ่อง! 
          ผมได้แต่เถียงในใจเพราะพี่มันไม่ปล่อยให้ผมได้พูดเป็นคำ มันจูบปากผมเร็วๆ ก่อนจะผละออกไปจับเอวแล้วกระแทกเข้ามาแรงๆ
          “อือ...อ้ะ...พี่...อืมมม”
          “อือ...อา...มาร์ค อึก!”
          “อ๊ะ...” ผมกระตุกแรงๆ หนึ่งครั้งก่อนจะปลดปล่อยตัวเองออกมาเลอะหน้าท้อง ส่วนพี่วีมันกระแทกเข้ามาแรงๆ อีกสองสามทีก่อนจะปล่อยออกมาเต็มถุงยาง
          “แฮ่ก! แฮ่ก!” เสียงหอบกับกลิ่นคาวไม่ได้ทำให้ผมสนใจ ผมเพิ่งรู้ว่าขาที่ถูกวางลงกับเตียงมันชาจนไม่สามารถกระดิกได้ พี่วีทิ้งตัวลงมานอนหายใจรดผมอยู่ไม่สามารถเรียกสติของผมให้คืนมาได้
          ผมอยากนอน และหวังว่าพรุ่งนี้จะเป็นวันที่ดี

          “ถ้าไม่อยากเสียใจ...ชอบใครให้รีบบอก” แต่เสียงทุ้มที่กระซิบอยู่ข้างหูทำให้ผมรู้ว่าคืนนี้ยังไม่ผ่านไป แต่ผมก็หลับตาและปล่อยน้ำตาให้ไหล

          ตอกย้ำไปดิ
          นอกจากผมจะตอกย้ำตัวเองด้วยการยอมพี่มัน พี่มันยังมาตอกย้ำผมเพิ่มอีก
          แต่ผมจะจำไว้เป็นบทเรียนแล้วกัน



อ่านจบแล้วฝากไปคอมเมนต์ด้วยนะคะ https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1616493&chapter=5