วันพุธที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2565

Call My Name! ผมไม่ได้ชื่อคำผาน CH.19 #แมว

 


Call My Name! ผมไม่ได้ชื่อคำผาน



ตอนที่ 19

แมว



“อื้ม~” ปากสวยของพี่ยูจูบเข้าที่ปากผม อายตัวเองที่เมื่อกี้ไปมอบทักษะเด็กน้อยให้เขา แต่เขาก็ไม่ได้ทำเหมือนว่าผมทำไม่ดีหรืออะไรทั้งนั้น เหมือนพี่เขารู้ว่าผมกังวล และพยายามมากๆ ที่จะให้พี่เขามีความสุข เขาเลยปรนเปรอกลับมามากจนผมแทบกระอัก

“อืม…” ปากสวยประกบอยู่ที่ปากผมจนชิด ชิดจนไม่มีแม้แต่อากาศรอดผ่านปากเราได้ ผมต้องใช้เทคนิคขั้นสูงในการหายใจเลยแหละ พี่ยูไม่ปล่อยให้ปากผมว่างเลยแม้แต่วินาทีเดียว เขากลืนกินและจูบผมอย่างตะกละตะกลาม ขยับดูดกลืนปากด้านบนของผมผ ก่อนจะย้ายมาที่มุมปาก และสอดแทรกลิ้นชื้นๆ นั้นเข้ามาเกี่ยวกระหวัดเล่นกับลิ้นผม

“อืมมม”

“ฮื้อ~” ผมส่งเสียงอู้อี้ออกมา เมื่อมืออุ่นๆ เริ่มอยู่ไม่สุข เขาเลื่อนมือมาถอดเสื้อผ้าผมออกอย่างช้าๆ แต่เสื้อผ้าผมก็หลุดออกจากร่างกายอย่างง่ายดาย เหมือนประมาณว่า ‘เชิญครับ…อยากแตะเนื้อตรงไหนของร่างกายผมก็เชิญเลย เดี๋ยวผมขยับออกเอง’ พี่ยูแค่กระตุกมันเบาๆ เองนะ มันหลุดออกง่ายๆ อย่างนั้นเลยเหรอ?

“อืมมม”

“ฮ้า…ฮื้อ” ผมส่งเสียงบ้าๆ ที่ไม่เป็นคำนี่อีกแล้ว ไม่รู้เลยว่าตัวเองส่งเสียงน่าเกลียดนั่นออกมาได้อย่างไร แต่มันหยุดร้องไม่ได้จริงๆ นะ ยิ่งตอนที่พี่ยูปล่อยให้ปากผมเป็นอิสระ ผมยิ่งร้องดังขึ้นกว่าเดิม มืออุ่นขยับเลื่อนไปจับแทบทุกส่วนของร่างกายผมแล้ว ปากนุ่มๆ นั่นก็เลื่อนตามมือของเขาเหมือนกัน

“อืม อึบ!”

“อ๊ะ!” พี่ยูใช้มือของเขาขยับยกผมขึ้น ให้ผมเลื่อนตัวไปตามแรงและทิศทางที่เขากำหนด แล้วปากร้อนๆ ของเขาก็อยู่ตรงกับแผ่นอกของผม แขนยาวตวัดโอวเอวผมไว้หนึ่งข้าง ส่วนมืออีกข้างของเขาวางอยู่ที่ก้นผม

“จ๊วบ!” ปากอุ่นครอบเอาเม็ดบนแผ่นอกผม ดูดกลืนและดื่มด่ำกับมันราวกับว่ามันมีรสชาติหรืออะไรอย่างนั้น เขาทำอย่างรุนแรง แต่ผมไม่เจ็บเลยสักนิด ยิ่งพี่ยูขยับปากแรงแค่ไหนผมยิ่งเสียว ยิ่งพี่ยูตวัดลิ้นเลียมันเร็วเท่าไหร่ผมยิ่งร้อง

“อะ อ๊า! พะ พี่…ยู ฮื้อ~” ผมดันหน้าหล่ออกจากอกผมเมื่อผมรู้สึกว่าไม่ไหว ผมรู้ว่าเขาอยากให้ผมรู้สึกดี แล้วผมก็รู้สึกดีอย่างที่เขาอยากให้ผมรู้สึกนั่นแหละ แต่มันมากเกินไป มาก…จนหายใจไม่ทัน

“ว่าไงครับเบงกอล”

“…” แม่ง…ครับไม่พอ เรียกกูเบงกอลอีก ทำแบบนี้ผมจะไปไหนรอดวะ

“อืมมม” ผมเลื่อนมือไปตามแผ่นหลังของพี่ยู ทั้งๆ ที่ผมยังคร่อมตัวพี่เขาอยู่ แต่พี่เขาก็ไม่ได้นอนราบไปกับเตียง ยังเหลือช่องวางระหว่างเตียงกับแผ่นหลัง ให้ผมได้สอดและแทรกมือเข้าไปสัมผัส เลื่อนจากกลางหลังขึ้นมาที่ไหล่ ลูบไล้ไหล่กว้างๆ นั่นแล้วมองตาพี่เขา พี่เขาเองก็มองผมอย่างพึงพอใจ ผมสอดนิ้วเข้าไปนวดที่ท้ายทอยของพี่ยู แล้วพี่ยูก็ครางออกมาเบาๆ

“อะ อื้อ~”

ผมลูบไล้เขาอยู่ไม่นานเขาก็เอาคืน มือใหญ่ลูบไล้ที่สะโพกของผม ในตอนที่ผมนวดท้ายทอยเขาเบาๆ ผมต้องหยุดแล้วดึงผมสวย เพราะเขาเลื่อนมือจากสะโพกไปเป็นที่ตัวผม พี่ยูขยับมันเบาๆ แต่ผมโคตรรู้สึกดีเลย แน่นอนว่าไม่เคยมีใครทำแบบนี้กับผมมาก่อน แต่ถึงจะมี ผมก็กล้าบอกได้เต็มปากเลยว่าสิ่งที่เขากำลังทำให้ผมตอนนี้มันทำให้ผมรู้สึกดีสุดๆ

“ขยับหน่อยนะครับเบงกอล” เสียงทุ้มนั้นว่าที่ข้างหูผม แล้วดันอกผมเบาๆ

“อะ อื้อ~” ผมผงะถอยหลังเมื่อเขาเลื่อนมือลงต่ำ แล้วค่อยๆ สอดนิ้วเข้ามา ผมอยู่ในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอน ข้อศอกของผมเท้ากับเตียงนอน ขาผมอ้าออกกว้าง แล้วนิ้วพี่ยูก็ค่อยๆ ขยับเข้าขยับออก เหมือนจะไหว…แต่ก็ยากเกินไปสำหรับผม ผมช้อนสายตามองเขาอย่างขอร้อง แล้วคนหล่อก็ทำตามคำร้องขอของผม

“อยู่ท่านี้ก่อนนะ” พี่ยูบอกแล้วขยับลงจากเตียง ผมรู้ว่าเขาคงเดินไปเอาของของเขานั่นแหละ คนอะไรแม่งพกทั้งเจลทั้งถุงยาง ผมรู้…ผมรู้ว่าคนเราควรทำอย่างนั้น เพราะการมีเซ็กมันเป็นเรื่องปกติ แต่พี่ยูบอกว่าพกตลอดเลยนะเว้ย ไม่ใช่แค่ตอนไปเจอแฟนหรือตอนที่ตั้งใจจะทำ

แล้วผมแม่ง…ก็กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่ท่าเดิมตามที่เขาว่า ทำตามที่เขาบอกทุกอย่างอย่างง่ายดาย ก้มลงมองท่าทางของตัวเองแล้วก็หน้าแดง แม่ง…ท่าทางแบบนี้มันดูอิโรติกมากเกินไปสำหรับผม แต่ก่อนที่ผมจะได้หุบขาตัวเอง พี่ยูก็กลับมาอยู่ตรงหน้าผมเหมือนเดิมแล้ว

“อะ…พะ พี่ยู”

“หืม?” คนหล่อส่งเสียงถามในลำคอพร้อมๆ กับคิ้วสวยที่เลิกขึ้น ผมจับมือหนาไว้ก่อนที่มันจะขยับเข้ามาใกล้ผม ช้อนตามองเขาอย่างที่เคยทำ ไม่รู้หรอกว่าสายตาที่ส่งออกไปมันหมายความว่าอย่างไร แค่อยากจะอ้อนให้เขาเบาๆ กับผมหน่อยก็เท่านั้นเอง

“บะ เบาๆ นะ”

จุ๊บ!

แทนคำตอบรับ พี่ยูขยับมาจูบหน้าผากผม แล้วใจผมก็เต้นระรัวเพราะการกระทำของเขา ใจมันโลดแล่นอยู่จนไม่รู้ว่าเขากำลังแทรกนิ้วชื้นๆ นั่นเข้ามาในร่างกายผม เขาค่อยๆ ทำอย่างที่ผมขอไว้ ค่อยๆ กดเข้ามา แล้วมองผมว่าไหวหรือเปล่า

“อืม…ไหวนะ” เขาถามผม แล้วผมก็พยักหน้า

“อื้อ~ ฮึก!” ผมส่งเสียงออกมาเมื่อเขาขยับเข้าออกอยู่อย่างนั้น

“รู้สึกยังไงบอกได้นะ” พี่ยูว่า เหมือนเขาจะเป็นห่วงผม แต่ไม่รู้เลยว่าผมไม่ได้อยากให้ห่วง ผมเลื่อนมือตัวเองมาด้านหน้า กอบกุมตัวเองแล้วชยับตามจังหวะของเขา

“พะ พี่…ยู” ผมเรียกเขาอีกแล้ว เรียกเพราะรู้สึกดีกับสิ่งที่เขาทำให้จนไม่รู้ว่าจะพูดอะไรออกดี

“หืม? ว่าไง” เสียงหล่อกระซิบอยู่ข้างหู นิ้วสวยยังขยับเข้าออกเพื่อให้ผมคุ้นชิน แต่ตอนนี้ผมรู้สึกมากกว่าคุ้นชินแล้ว

“สะ เสียว” เออ! แม่งโคตรเสียวเลย

“แม่ง” พี่เขาสบถออกมาก่อนจะถอนมือออกไป หน้าหล่อมองมาที่ผมที่กำลังทำหน้าบิดเบี้ยว ผมรู้ว่าตัวเองไม่ทำหน้าตาแบบปกติ แต่ไม่รู้ว่าสีหน้าที่แสดงออกไปมันเป็นแบบไหน แต่มันต้องไม่ใช่ปกติแน่ๆ เพราะตอนนี้เหมือนพี่ยูมองผมแล้วกำลังจะสติแตก

“แฮ่ก! แฮ่ก!” ผมหอบหายใจเอาอากาศเข้าปอด เพราะเมื่อก่อนหน้านี้ร้องครางจนแทบไม่ได้หายใจ

“อะ…”

“ฮื้อ~” ผมสะดุ้งเมื่อพี่ยูขยับเข้ามาชิด จากเมื่อก่อนหน้านี้ไม่กี่ชั่วโมงผมเป็นคนคร่อมทับเข้าไว้ ตอนนี้เขาขยับขึ้นคร่อมทับและพร้อมขยับเอวอยู่บนตัวผมแทนแล้ว

“นิดเดียว” พี่ยูเอ่ยปลอบผมแบบนั้น พร้อมกับจูบที่ข้างหูผมเบาๆ แต่ขอโทษนะ นั่นมันไม่ใช่นิดเดียว!

“อะ อื้อ~”

“อืมมม” แม้ว่ามันค่อนข้างยาก แต่พี่ยูก็ยังคงใจเย็นและใจดีกับผม เขาค่อยๆ ขยับเข้ามา พอผมไม่ไหวเขาก็ขยับออกไปก่อน ทำอยู่แบบนั้นสักพักจนผมปรับตัวได้ พี่ยูเลยเข้ามาในตัวผมได้ทั้งหมด

คนตัวสูงขยับคร่อมผม และดันให้ผมนอนราบลงกับเตียง มือหนาปัดป่ายอยู่บนหน้าท้องผม และเอวสอบก็ค่อยๆ ขยับ ผมรู้ว่าผมส่งเสียงครางอีกแล้ว แต่ผมไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงครางออกมาดังขนาดนี้ ผมไม่รู้จะเรียกความรู้สึกดีที่ได้รับในตอนนี้ว่าอะไรดี มันทั้งสนุก ทั้งตื่นเต้น ทั้งอิ่มเอมไปพร้อมๆ กัน

“อะ อื้อ อ๊ะ! อะ”

“อืม…เบงกอล อืม…” พี่ยูเรียกชื่อผมอย่างที่เขาบอก เหมือนกับผมที่เรียกชื่อเขาบ้าง ครางออกมาอย่างไม่ได้ศัพท์บ้าง

พี่ยูขยับโยกแล้วทำให้ผมรู้สึกเหมือนว่าตอนนี้ผมอยู่ในความฝัน ผมแทบจะไม่อยากเชื่อว่าความรู้สึกแบบนี้มันเป็นของจริง ถ้าไม่ได้ยินเสียงเขา ถ้าไม่ได้สัมผัสเขา ผมคงไม่เชื่อตัวเองแน่ๆ ผมเลื่อนมือข้างหนึ่งไปดันหน้าท้องสวยๆ ของพี่ยูไว้ แล้วขยับตัวเองเป็นจังหวะเดียวกันกับเขาด้วยมืออีกข้าง พี่ยูจับเอวผมทั้งสองมือ จับบ้าง ขยับนวดเฟ้นมันบ้าง ผมไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะมีรอยช้ำตามตัวหรือเปล่า ถึงจะมีผมก็จะไม่บอกให้เขาหยุดหรอกนะ

“ฮื้อ! พี่ยู! พี่ยู…” ผมเรียกชื่อเขาซ้ำๆ เมื่อเขาขยับแรงขึ้น

“อา…เบงกอล”

เหมือนพี่ยูอยากแกล้งผม

เขาขยับตัวเองเร็วๆ จนผมแทบเบลอ ก่อนจะผ่อนแรงลงแล้วขยับตัวเข้ามาแรงๆ พอเข้ามาจนลึกที่สุดแล้วเขาก็ขยับออกไปจนตัวเราเกือบหลุดออกจากกัน พี่ยูทำอย่างนั้นอยู่สักพัก ดันเข้ามา แล้วขยับออกไป ดันเข้ามาจนเราแนบชิด แล้วขยับออกไปจนเราเกือบหลุดจากกัน แทนที่ผมจะหงุดหงิดที่เขาทำแบบนั้น แต่ผมกลับรู้สึกเสียวมากขึ้น เพราะตอนที่เขาขยับเข้ามาลึก มันก็ลึกสุดๆ ไปเลยยังไงล่ะ

“หืม? อ๊ะ!” พี่ยูโอบเอวผมแล้วดึงให้ผมลุกขึ้น เขานอนราบลงกับพื้นแล้วยกผมขึ้นบนตัวเขา ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก จนผมแทบไม่รู้ตัวเลย รู้ตัวอีกทีผมก็มานั่งแนบชิดอยู่บนตัวพี่ยูแล้ว

“ขยับสิเบงกอล”

“อะ อื้อ” ตอนที่บอกให้ผมขยับ เอวพี่เขาก็ขยับไปด้วย มือสองข้างยกตัวผมให้ลอยขึ้นเล็กน้อย แล้วเขาก็ขยับเข้ามาหาผม สักพักก็ปล่อยให้ผมได้ขยับเองตามที่ผมต้องการ

ผมโคตรรู้สึกดี

มือผมวางอยู่บนหน้าท้องของพี่ยู มือของเขาก็วางอยู่ที่ก้นของผม มือหนานั้นบีบเคล้นจนผมรู้สึกเสียว ทั้งๆ ที่ผมยังขยับเอวแต่พี่เขาก็ไม่ได้ปล่อยให้ช่วงล่างของผมเป็นอิสระ พี่ยูยังเล่นกับมัน ทุกส่วน…ทุกตารางนิ้ว

“อืม…เบงกอล ดี…อา เบงกอล”

“อื้อ! อ๊ะ! อะ…”

ยิ่งเขาบอกว่าดี ผมยิ่งได้ใจ ยิ่งพี่ยูเรียกผมมากเท่าไหร่ผมก็ยิ่งขยับเร็วเท่านั้น เสียงของเขาทำให้ผมในสั่น ร่างกายของเขากำลังทำให้ผมคลั่งไคล้ สายตาของเขาที่มองผมอยู่ตอนนี้ทำให้ผมตื่นเต้น จังหวะที่ผมกำลังขยับอยู่ทำให้ผมรู้สึกดี

“เบงกอล…อา เบง…”

“พี่! พี่ยู…ฮื้อ” ผมขยับแรงขึ้น เร็วขึ้น พี่ยูเองก็ช่วยผม เขาขยับโยกมือที่วางอยู่บนเอวผม เอวของเขาก็ขยับอยู่ด้านล่าง น่าแปลกที่เราต่างกันมากแต่จังหวะที่เรากำลังทำอยู่นี้เป็นจังหวะเดียวกัน เราขยับพร้อมกัน ส่งเสียงออกมาดังเท่าๆ กัน มองตากันเพื่อที่จะสื่อความหมายเหมือนๆ กัน รอยยิ้มของพี่ยูกำลังบอกผมว่าเขามีความสุข แล้วผมเองก็แม่งโคตรมีความสุข

“อา…เบงกอล”

“อะ…อื้อ!” ผมปลดปล่อยออกมา มันคงเลอะหน้าท้องของพี่ยู พี่ยูเองก็ปลดปล่อยอยู่ภายในตัวผม ไม่นานเขาก็ถอนตัวเองออกพร้อมๆ กับถุงยาง เขายกผมขึ้นเล็กน้อย แต่เท่านั้นก็มากพอที่จะทำให้ผมลุกออกจากตักพี่ยู แล้วนอนแผ่อยู่บนเตียงแทน

จุ๊บ! จุ๊บ!

พี่ยูขยับมาจูบที่แก้มผมเบาๆ แล้วเขาก็เลื่อนมาจูบที่ปากผม



#คำผานที่บ้านมีโคมไฟใหญ่กว่ารถถัง

วันศุกร์ที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2565

Call My Name! ผมไม่ได้ชื่อคำผาน CH.16 #ผมไม่ได้ชื่อคำผาน



Call My Name!  ผมไม่ได้ชื่อคำผาน


ตอนที่ 16

ผมไม่ได้ชื่อคำผาน




 “คำผาน กูขอทำนะ” ผมเอ่ยขอในที่สุด ผมไม่สามารถนอนหลับลงโดยที่ไม่ได้ครอบครองคนที่อยู่ตรงหน้านี้ ผมทำแบบนั้นไม่ได้จริงๆ

“อื้อ~” คำผานตอบออกมาในตอนที่เรามองตากันอีกครั้ง ผมยิ้มให้คำผานเมื่อได้ยินคำอนุญาตนั่น และผมก็มองตาคู่สวยที่ชวนให้ผมหลงใหลอีกครั้ง

“อืม~” ผมขยับเข้าประกบกับปากบางอีกครั้ง ครั้งนี้ไม่ใช่แค่เอาปากไปแนบปากให้ชิด ครั้งนี้คือการบดปากลงไป แทรกซึมเพื่อชิมริมฝีปากหวานๆ ประกบกินริมฝีปากด้านบน ก่อนจะวนกลับมาประกบริมฝีปากด้านล่าง คำผานเองก็ขยับปากตามจังหวะของผม มือนิ่มกำที่ขอบผ้าขนหนูผมแน่น ในขณะที่มือผมค่อยๆ เลื่อนไปปลดกระดุมเสื้อนอนของมัน

“อื้อ~” แล้วคำผานก็ชะงักเมื่อผมแทรกลิ้นเข้าไปชิมโพรงปากอุ่นๆ คำผานชะงักแต่ไม่ได้ขยับหลบไปไหน พอดีกับที่ผมปลดกระดุมเสื้อตัวบางนี้ได้สำเร็จแล้ว มือผมทั้งสองข้างจึงเลื่อนไปกุมแก้มสวยนั้นได้ กดปรับองศาที่ผมคิดว่าเหมาะสม เป็นองศาที่สามารถสร้างจังหวะวาบหวามได้แม้จะทำเพียงประกบปากกัน

“อืมมม จุ๊บ!” จังหวะที่ผมผละปากออกจากปากของคำผาน เสียงน่าอายดังตามไล่หลัง คำผานก้มหน้างุดตอนที่ระหว่างเรามีช่องว่างแล้ว ผมจับคางสวยให้เชิดขึ้นมองหน้าผมอีกครั้ง 

“ฮื้อ~” พอได้สบตากับ คำผานก็ส่งเสียงแปลกออกมา ผมรู้เลยว่ามันเขิน แล้วผมแม่งก็โคตรชอบเวลาที่มันเขินจนไปไม่เป็นแบบนี้ แก้มมันแดงมาก ปากบางนั้นเริ่มบวม และตาสวยนั้นฉ่ำวาวไปด้วยน้ำ

“เป็นอะไร” ผมถามยิ้มๆ อยากจะหลุดขำออกมาจริงๆ จังๆ แต่ก็กลัวคำผานเขินมากกว่านี้

“มันดีมากเลย” เสียงแหบบอกผมเบาหวิว หน้าผากสวยซบลงที่ไหล่ผมข้างหนึ่ง 

“มีดีกว่านี้อีกนะ” ผมกระซิบ

“ฮื้อ~” คำผานกดหน้าลงกับไหล่ผมมากกว่าเดิม ตัวเราแนบชิดกันมากขึ้น และทำให้ผมได้รู้ว่าต่างคนต่างมีอุณหภูมิร่างกายที่เพิ่มขึ้น ผมร้อน…คำผานก็กำลังร้อน

ผมก้มลงหอมผมหอมๆ ของคำผาน ขยับเข้าไปหามัน แล้วมันก็ขยับเท้าถอยหลัง ผมหอมแก้มนิ่มที่ผมหลงอีกครั้ง ก่อนจะประคองหน้าสีสวยมาใกล้ๆ ขยับตัวเองเข้าหาแล้วบดจูบลงไปที่ปากบางๆ นั่นอีกที ครั้งนี้คำผานจูบตอบได้ดีกว่าเดิม ปากของเราสองคนบดเบียดกันไปมา สลับด้านบน สลับด้านล่าง ผมแทรกลิ้นเข้าหาลิ้นชื้นข้างใน ครั้งนี้ลิ้นเล็กนั้นไม่ได้ขยับหลบหนี แต่กลับขยับเข้าหาเหมือนจะสู้ 

“อื้อ~”

“อืม~” ต่างคนต่างสลับดูดดุนเพื่อหาความหวานของกันและกัน คำผานเรียนรู้ได้เร็วมาก หรือเป็นเพราะว่าผมชอบที่มันเป็นแบบนี้ก็ไม่รู้ มันทำให้ผมใจเต้นแรงได้ด้วยท่าทางของมัน ทุกการขยับ และทุกองศามันกำลังทำให้ผมหลงใหล ผมอยากเข้าหามากกว่านี้ อยากแนบชิดมากกว่า อยากดูดดื่มมากกว่าที่กำลังทำอยู่

“อ๊ะ!” 

“หึ!”

ก็บอกแล้วว่าข้างหลังนั่นโซฟา

คำผานชนกับขอบโซฟาและนั่งลงตรงนั้น ผมขยับเข้าหาทันทีไม่ได้ปล่อยเวลาให้ว่างไปมากกว่านี้ ตอนนี้อารมณ์ผมมันไต่สูงเกินกว่าจะรีรออะไรทั้งนั้น คำผานเองก็คงไม่ต่าง เพราะตาเล็กนั่นกำลังเยิ้มอย่างยั่วเย้า เจ้าตัวรู้หรือเปล่าไม่รู้แต่ทุกท่าทาง ทุกการแสดงออกของคำผานตอนนี้กำลังยั่วยวนผม ถ้ามันตั้งใจผมบอกเลยว่ามันได้ผล แต่ถ้ามันไม่ได้ตั้งใจผมบอกเลยว่าผมไปไหนไม่รอดแน่ๆ

“อื้อ! พะ…พี่ยู” เสียงหวานเบาหวิวตอนที่ผม ผละออกจากปากแล้วลากลิ้นมาที่ซอกคอ กดจูบคออุ่นๆ หอมๆ นี่นานๆ ความจริงอยากฝากรอยเอาไว้ แต่มันคงไม่เหมาะสม ผมขบเม้มเบาๆ แล้วคำผานก็ดิ้นเร่าๆ มือที่ไม่เคยแตะที่อกผมก็เลื่อนมาแตะ 

“อืมมม”

“อื้อ~ สะ…เสียว” เสียงหวานว่าออกมาอย่างนั้นเมื่อผมขยับปากลงต่ำกว่าเดิม ครอบเอาเม็ดสีสวยที่อยู่บนอกขาวๆ แล้วค่อยๆ ขยับลิ้น ดูดกินมันอย่างกับคนบ้าคลั่งที่ไม่เคยกินอะไรแบบนี้มาก่อน คำผานบิดไปมา ปากสวยครางออกมาไม่หยุด เสียงดังขึ้นเรื่อยๆ แข่งกับเสียงหอบหายใจ ยิ่งตอนที่ผมสลับข้าง แล้วใช้มือสะกิดอีกข้าง คนตัวบางยิ่งเสียงดัง

“อืม จุ๊บ!” 

มันหวาน…

คำผานหวานไปทั้งตัว ผมไม่อยากจะหยุดอยู่แค่ปาก ไม่อยากหยุดแค่คอ ไม่อยากหยุดแค่เม็ดบนอก ผมแอบฝากรอยไว้ที่ใต้ราวนมมันหนึ่งรอย มันอดใจไม่ไหวจริงๆ ผิวขาวๆ มันเหมาะกับรอยช้ำๆ ที่ผมฝากไว้มากๆ แม้ว่าหลายคนจะบอกว่าไม่ให้ทำอะไรมัน แม้ว่าหลายคนจะบอกว่าผมมันไม่คู่ควร แต่สิ่งที่ผมกำลังจะทำต่อไปนี้ เป็นสิ่งที่บอกผมได้ว่า มันไม่ได้ไกลเกินที่ผมจะเอื้อมถึง มันอยู่ตรงหน้าผม และผมกำลังสัมผัสทุกตารางพื้นผิวของมัน

จากปากเป็นคอ จากคอเป็นอก จากอกเป็นเอว มือผมเลื่อนลงต่ำกว่านั้น ต่ำว่าสะดือและนวดเฟ้นเบาๆ ที่ก้อนนิ่มๆ ด้านหลัง มันนุ่มสบายมืออย่างที่ผมไม่เคยทำมาก่อน ขนาดมีเนื้อผ้าปิดบังอยู่ยังนุ่มมากขนาดนี้ ผมแทบอยากฉีกกระชากกางเกงของมันออกเพื่อที่จะได้สัมผัสแค่เนื้อนุ่มๆ นั่น

พรึบ!

“ฮื้อ~ มะ…มัน…” คำผานดึงผ้าเช็ดตัวผมหลุด แล้วมันก็หลุดลงไปกองตรงพื้น แน่นอนว่าผมยังไม่ได้ใส่อะไรข้างในสักชิ้น เทพตัวน้อยของผมทักทายคำผานอยู่แน่ๆ หน้าที่แดงอยู่แล้วแดงกว่าเดิมเข้าไปอีก มือน้อยยกขึ้นปิดหน้าตัวเอง ส่งเสียยงที่แสดงออกว่าเขินอายออกมาอย่างไม่กลัวว่าผมจะล้อ

“หึ!” ผมหลุดขำเมื่อเห็นท่าทางแบบนั้นของคำผาน

เด็กน้อย…เป็นเด็กน้อยที่ทำตัวน่ารัก แล้วก็รู้สึกว่าอยากทำให้เติบโต อยากทำให้มันได้เรียนรู้ อยากสอนให้มันรู้ว่าอีกโลกหนึ่งที่มันไม่เคยเข้าไปมันเป็นยังไง

“พี่…” เสียงหวานเอ่ยเรียกผมแผ่วเบา พร้อมกับมือเล็กที่ลดลงจากหน้าของตัวเอง

“อะไร” ผมถาม เสียงผมนุ่มกว่าทุกครั้งที่เคยคุยกัน ไม่รู้ว่าคำผานรู้ไหม แต่ผมตั้งใจปรับโทนเสียงจริงๆ และผมก็อยากจะใช้โทนเสียงนุ่มๆ หวานๆ แบบนี้คุยกับมันบ่อยๆ

“ผะ…ผมจะเจ็บมากไหม?” มันถาม ตาเล้กนั่นไม่ได้มองลงต่ำเหมือนทุกครั้ง เพราะครั้งนี้มันรู้ว่าถ้ามองลงไปแล้วมันจะเจออะไร

“ไม่หรอก” ผมบอกแล้วคว้าเอากระเป๋าสะพายของตัวเอง ใช่…ผมเอาของพวกนั้นใส่ไว้ในกระเป๋าตลอดแหละ ผมมีทั้งถุงยางและเจล ก็ผมไม่รู้นี่ว่าต้องใช้อะไรแบบนี่ไหนหรือเมื่อไหร่ ผมไม่ได้ตั้งใจเอามาใช้กับคำผานโดยเฉพาะ แต่ผมพกของพวกนี้เป็นประจำอยู่แล้ว

“นี่พี่…”

“กูพกตลอด” ผมบอก แล้วเด็กที่นั่งแบะอยู่ตรงโซฟาก็หน้าแดงขึ้นไปอีก 

“แต่…แต่ผมก็กลัว” มันว่าในตอนที่มองของพวกนั้นที่อยู่ในมือผม

“ถ้าอย่างนั้นก็หันหลังให้พี่นะครับ”

“…” คำผานนิ่งไปแล้ว คนตัวเล็กมองหน้าผมค้างอยู่อย่างนั้น เราสองคนสบตากัน แล้วผมก็ได้รู้ว่าคำผานเขินมากแค่ไหน แต่มากกว่าความเขินที่ตาคู่สวยนั้นแสดงออก มันเหมือนว่าจะมีความสุขอยู่ในนั้น จะเรียกว่าความสุขเลยไหมผมก็ไม่รู้ เพราะผมไม่ค่อยได้เห็นสายตาแบบนี้จากคู่นอนคนไหน คำผานเม้มปากแล้วมองผมอย่างชั่งใจ ผมยิ้มให้มันอย่างอ่อนโยนอีกครั้ง แล้วคนที่นั่งอยู่ก็ค่อยๆ ขยับหมุนอย่างเคอะเขิน

ผมจัดการกับตัวเองแล้วค่อยๆ ดึงกางเกงตัวบางนั้นออก ก้นขาวสวยอยู่ในระดับสายตาพอดีในตอนที่ผมก้มลงมอง ผมอดใจไม่ไหวที่จะยื่นมือไปสัมผัส คำผานสะดุ้งเล็กน้อย แต่ก็ค่อยๆ ผ่อนคลายลงเมื่อผมลงน้ำหนักมือมากขึ้น ผมคิดว่าช่วงแรกๆ มันยังไม่ชิน มันยังเกร็ง และมันยังกลัว แต่ถ้าผมค่อยๆ ทำ ทั้งผมและคำผานก็จะค่อยๆ มีความสุข

“ทำไมตัวหอมจัง” ผมกระซิบบอกอยู่ที่ท้ายทอยของคำผาน

“ฮื้อ~” มันส่งเสียงออกมาอย่างนั้นแล้วหันมามองผม ผมยิ้มให้ก่อนจะก้มลงไปกดจูบที่ปากอีกทีแล้วผละออกมา คำผานเขินม้วนไปแล้ว แต่ผมก็ยังคลอเคลียแถวๆ หลังหูอยู่ไม่ห่าง

“กูพูดจริงๆ” มันหอมมากจริงๆ ผมไม่ได้พูดเพื่อหลอกล่อหรือเอาใจ แต่กลิ่นของคำผานมันหอมจนผมไม่อยากจะหยุดดมหรือหยุดจูบเลยสักนิดเดียว

“อะ…พะ พี่ยู…”

“ไม่เจ็บหรอก กูจะค่อยๆ ทำ” ผมบอกในขณะที่กดตัวเองเข้าไปหาคำผาน 

“ฮื้อ~”

“อืมมม” 

ความรู้สึกที่ผมอยากบอกว่ามากกว่ารู้สึกดีถาโถมเข้ามาในตอนที่ผมกดตัวเองเข้าไปจนหมด เจลหล่อลื่นช่วยได้เยอะมาก และคำผานเองก็เก่งมากๆ เหมือนกัน ความอุ่นร้อนที่ผมกำลังสัมผัสอยู่ทำให้ผมอยากจะขย้ำมันเร็วๆ แต่พอมองหน้าเหยเกของคนด้านล่างผมก็เลยค่อยๆ ขยับ

“อื้อ!”

“อืม”

ค่อยๆ ขยับ สลับกับค่อยๆ จูบ

มือผมนวดที่เอวของคำผานอย่างแผ่วเบา มืออีกข้างก็วางที่แผ่นหลังบอบบางนั่นอย่างระวัง กลัวว่าถ้ากดแรงเกินไปมันจะเจ็บ หรือถ้าลงน้ำหนักมือมากเกินไปตัวมันจะช้ำ คำผานเองก็เกาะขอบโซฟาไม่ปล่อย เกาะแน่นและหันมามองผมอยู่ตลอด ผมจูบที่ปากบาง เลื่อนลงมาที่หลังหู ซุกหน้าเข้าที่ซอกคอ แล้วค่อยๆ ขยับตัวเองไปด้วย

“อะ…อื้อ~”

“อืม คำผาน…แม่ง” ผมไม่รู้ว่าควรจะสบถคำไหนหรืออุทานออกมายังไงดี มันทำให้ผมรู้สึกดีมากๆ ทุกจังหวะ ทุกเสียง ทุกการกระทำที่ผมกับคำผานกำลังทำอยู่ เป็นสิ่งตอกย้ำและบอกกับผมว่ามันเป็นของผม เป็นของผมแล้วแม้ว่าใครหลายคนจะบอกว่าไม่คู่ควร ผมไม่รู้ว่าผมจะทำให้มันเสียใจไหม และผมก็ไม่รู้ว่าวันข้างหน้ามันจะเจอคนที่ดีกว่าแล้วทิ้งผมไปหรือเปล่า

แต่ตอนนี้เราสองคนกำลังมีความสุขด้วยกัน

“อ๊ะ! พี่…ยู อื้อ~” เสียงครางกระเส่าของมันทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้ฟัง แม้ว่าคำผานจะพูดออกมาแค่คำเดิมแต่ผมแม่งโคตรมีความสุขเลยที่ได้ฟังคำนั้น มันส่งเสียงที่จับใจความไม่ได้ ไอ้ที่พอจะฟังรู้ความหน่อยก็คือชื่อของผม

“คำผาน…” ผมลูบผมสวยนั้น ไล้นิ้วแผ่วเบาที่กรอบหน้า วาดลงที่จมูกแล้วกดเบาๆ ที่ปาก

งับ~

คำผานงับเอานิ้วของผม มันยึดทั้งนิ้วชี้และนิ้วกลางของผมไว้ด้วยปากของมัน ลิ้นชื้นกำลังตวัดละเลงเล่นกับนิ้วผมที่อยู่ในปาก ไม่ต่างจากมือผมที่กำลังฟอนเฟ้นเคล้นคลึงที่เอวสลับกับก้นนุ่มๆ มือของผมวางอยู่ไม่ไกลจากบั้นท้ายของมัน เอวของผมขยับไม่เคยหยุด ผมมองเห็นทั้งหมด ทั้งนิ้วของมที่กำลังถูกมันกลืนกิน ทั้งตัวตนของผมที่กำลังถูกมันครอบครอง

“อะ อา…ฮื่อ” คำผานปล่อยนิ้วผมให้เป็นอิสระ มันส่งเสียงครางดังขึ้นเมื่อผมขยับเร็วขึ้น หน้าสีระเรื่อเอี้ยวมามองผม พอดีกับที่ผมใช้มือข้างที่เพิ่งเป็นอิสระปัดป่ายแถวๆ ตัวตนของมัน

แปะ! แล้วคำผานก็ปัดมือผมออก นิ้วเรียวสวยกอบกุมเข้าที่ตัวตนอุ่นๆ ของตัวเองแทนที่จะเป็นโซฟา ผมเลยได้วางมือทั้งสองข้างไว้ที่บั้นท้ายสวยๆ ของมันแทน มือข้างหนึ่งของคำผานยังเกาะขอบโซฟาไว้เหมือนเดิม และมืออีกข้างก็ยังขยับที่ตัวตนของตัวเอง เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ผมขยับเอว

“อา อืม” ผมสบสายตาคู่ฉ่ำแล้วหยุดตัวเองไม่ได้เลย รู้เลยว่าถ้าหยุดตอนนี้แม่งโคตรจะกากมากแน่ๆ สายตาของคำผานกำลังสะกดผม ไม่ได้บอกให้ผมหยุด แต่กำลังอ้อนขอแกมสั่งให้ผมขยับต่อ ปากสวยเผยอครางไม่หยุด ตาหวานนั้นมองผมไม่ละสายตา และผมเองก็ไม่ได้มองไปทางไหนนอกจากหน้าใบหน้ายั่วยวนและร่างกายที่ยั่วเย้าของมัน

แบบนี้สินะที่เขาเรียกกันว่ากวาง

“อะ อา…สะ เสียว พี่ยู”

“อืม…”

“พี่ยู ผม…เสียว”

“อ่า…” ผมบอกอะไรออกไปไม่ได้ เพราะผมเองก็เสียวและรู้สึกดีมากๆ ไม่ต่างจากคำผาน ผมขยับเข้าขยับออก และคำผานเองก็ขยับตอบ ตัวคนที่อยู่ด้านล่างสั่นคลอนไปตามจังหวะที่ผมเป็นคนชักนำ ปากหวานครางชื่อผม และบอกความรู้สึกกับผมอยู่ตลอดเวลา พอเป็นแบนี้ผมก็ยิ่งขยับเร็วขึ้น หนักขึ้น และตัวของเราสองคนก็แนบแน่นขึ้น

“พี่ยู! พี่ยู! อ๊ะ!”

“อ๊ะ! อา” 

ผมกดตัวเองเข้าไปแนบชิดกับมันในจังหวะสุดท้าย แรงกระตุกรัดทำให้ผมรู้ว่าอีกคนกำลังปลดปล่อย ความสุขสมทำให้ผมต้องเชิดหน้ารับความรู้สึกอิ่มเอมนี้ ก่อนจะค่อยๆ ก้มหน้าลงมามองคนที่อยู่ด้านล่าง แล้วค่อยๆ ถอนตัวเองออกจากมัน 

แบ่บ!

คำผานทิ้งตัวเองลงกับโซฟา มันค่อยๆ หอบหายใจ เสื้อนอนตัวบางนั่นสั่นไหวไปตามจังหวะกระเพื่อมของหน้าอก เรียวขาสวยเปรอะเปื้อนไม่ต่างจากมือของมัน ตาสวยนั่นค่อยๆ ช้อนมองผมอย่างกล้าๆ กลัวๆ ผมเก็บเศษซากที่ตัวเองทำเลอะไปทิ้งที่ถังขยะแถวๆ นั้น แล้วเดินกลับมาหาคนที่มองทุกๆ การกระทำของผมตลอด

“พี่…” มันเรียกผมแล้วก้มลงมองตัวเอง 

“แม่ง…” เออ แม่งเอ๊ย! เห็นสภาพแล้วอยากจับมาเขย่าอีกสักรอบ 

“ขอบคุณ” มันบอกขอบคุณหลังจากที่ผมยื่นทิชชู่ให้ หน้าฉ่ำนั้นยังไม่หายแดงเลยสักนิด 

“ขอบคุณอะไรกันล่ะ” ผมว่าแล้วดึงเอาผ้าเช็ดตัวมาคลุมตัวเองอีกรอบ แล้วนั่งลงที่โซฟาข้างๆ มัน

พรึบ!

คนตัวเล็กขยับเข้ามาหา มันซบลงที่ไหล่ผม แล้วผมก็ค่อยๆ กอดมันกระชับเข้าหาตัวเอง เราสัมผัสได้ถึงจังหวะหัวใจของกันและกัน มันกำลังค่อยๆ ผ่อนคลาย จากที่เต้นเร็วและแรงกำลังค่อยๆ ผ่อนเข้าสู่จังหวะปกติ คำผานขยับซุกเข้ามาหาผม แล้วผมก็ก้มลงหอมหน้าผากของคำผาน

“ทำไมมันดีจังวะ” มันบอก

“หึ! ดีแล้วให้กูทำบ่อยๆ ไหมล่ะ?” ผมแกล้งถาม แล้วคนตัวเล็กก็ไม่ตอบ กลับก้มหน้าเขินอยู่ที่ซอกคอผม

จุ๊บ! ปากบางประกบเข้าที่เรียวคางของผม ผมยิ้มให้มันก่อนจะเขี่ยที่แก้มสีระเรื่อนั้นเบาๆ

“ความจริงผมไม่ได้ชื่อคำผาน” มันบอกผมหลังจากที่เรากอดกันแบบนั้นอยู่สักพัก

“หืม?” ก็พอจะรู้แหละว่ามันไม่น่าจะชื่อคำผาน แต่ก็ไม่เคยได้ถามว่าชื่อจริงๆ มันชื่ออะไร พอมารู้ตอนที่มันบอกเองแบบนี้ก็เลยตกใจนิดหน่อย

“นั่นแหละ…ผมไม่ได้ชื่อคำผาน”

“แล้วมึงชื่ออะไร?”

“ผมชื่อเบงกอล”



#คำผานที่บ้านมีโคมไฟใหญ่กว่ารถถัง

Twitter : @pflhzt

Facebook : faddist