วันพุธที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2565

Call My Name! ผมไม่ได้ชื่อคำผาน CH.19 #แมว

 


Call My Name! ผมไม่ได้ชื่อคำผาน



ตอนที่ 19

แมว



“อื้ม~” ปากสวยของพี่ยูจูบเข้าที่ปากผม อายตัวเองที่เมื่อกี้ไปมอบทักษะเด็กน้อยให้เขา แต่เขาก็ไม่ได้ทำเหมือนว่าผมทำไม่ดีหรืออะไรทั้งนั้น เหมือนพี่เขารู้ว่าผมกังวล และพยายามมากๆ ที่จะให้พี่เขามีความสุข เขาเลยปรนเปรอกลับมามากจนผมแทบกระอัก

“อืม…” ปากสวยประกบอยู่ที่ปากผมจนชิด ชิดจนไม่มีแม้แต่อากาศรอดผ่านปากเราได้ ผมต้องใช้เทคนิคขั้นสูงในการหายใจเลยแหละ พี่ยูไม่ปล่อยให้ปากผมว่างเลยแม้แต่วินาทีเดียว เขากลืนกินและจูบผมอย่างตะกละตะกลาม ขยับดูดกลืนปากด้านบนของผมผ ก่อนจะย้ายมาที่มุมปาก และสอดแทรกลิ้นชื้นๆ นั้นเข้ามาเกี่ยวกระหวัดเล่นกับลิ้นผม

“อืมมม”

“ฮื้อ~” ผมส่งเสียงอู้อี้ออกมา เมื่อมืออุ่นๆ เริ่มอยู่ไม่สุข เขาเลื่อนมือมาถอดเสื้อผ้าผมออกอย่างช้าๆ แต่เสื้อผ้าผมก็หลุดออกจากร่างกายอย่างง่ายดาย เหมือนประมาณว่า ‘เชิญครับ…อยากแตะเนื้อตรงไหนของร่างกายผมก็เชิญเลย เดี๋ยวผมขยับออกเอง’ พี่ยูแค่กระตุกมันเบาๆ เองนะ มันหลุดออกง่ายๆ อย่างนั้นเลยเหรอ?

“อืมมม”

“ฮ้า…ฮื้อ” ผมส่งเสียงบ้าๆ ที่ไม่เป็นคำนี่อีกแล้ว ไม่รู้เลยว่าตัวเองส่งเสียงน่าเกลียดนั่นออกมาได้อย่างไร แต่มันหยุดร้องไม่ได้จริงๆ นะ ยิ่งตอนที่พี่ยูปล่อยให้ปากผมเป็นอิสระ ผมยิ่งร้องดังขึ้นกว่าเดิม มืออุ่นขยับเลื่อนไปจับแทบทุกส่วนของร่างกายผมแล้ว ปากนุ่มๆ นั่นก็เลื่อนตามมือของเขาเหมือนกัน

“อืม อึบ!”

“อ๊ะ!” พี่ยูใช้มือของเขาขยับยกผมขึ้น ให้ผมเลื่อนตัวไปตามแรงและทิศทางที่เขากำหนด แล้วปากร้อนๆ ของเขาก็อยู่ตรงกับแผ่นอกของผม แขนยาวตวัดโอวเอวผมไว้หนึ่งข้าง ส่วนมืออีกข้างของเขาวางอยู่ที่ก้นผม

“จ๊วบ!” ปากอุ่นครอบเอาเม็ดบนแผ่นอกผม ดูดกลืนและดื่มด่ำกับมันราวกับว่ามันมีรสชาติหรืออะไรอย่างนั้น เขาทำอย่างรุนแรง แต่ผมไม่เจ็บเลยสักนิด ยิ่งพี่ยูขยับปากแรงแค่ไหนผมยิ่งเสียว ยิ่งพี่ยูตวัดลิ้นเลียมันเร็วเท่าไหร่ผมยิ่งร้อง

“อะ อ๊า! พะ พี่…ยู ฮื้อ~” ผมดันหน้าหล่ออกจากอกผมเมื่อผมรู้สึกว่าไม่ไหว ผมรู้ว่าเขาอยากให้ผมรู้สึกดี แล้วผมก็รู้สึกดีอย่างที่เขาอยากให้ผมรู้สึกนั่นแหละ แต่มันมากเกินไป มาก…จนหายใจไม่ทัน

“ว่าไงครับเบงกอล”

“…” แม่ง…ครับไม่พอ เรียกกูเบงกอลอีก ทำแบบนี้ผมจะไปไหนรอดวะ

“อืมมม” ผมเลื่อนมือไปตามแผ่นหลังของพี่ยู ทั้งๆ ที่ผมยังคร่อมตัวพี่เขาอยู่ แต่พี่เขาก็ไม่ได้นอนราบไปกับเตียง ยังเหลือช่องวางระหว่างเตียงกับแผ่นหลัง ให้ผมได้สอดและแทรกมือเข้าไปสัมผัส เลื่อนจากกลางหลังขึ้นมาที่ไหล่ ลูบไล้ไหล่กว้างๆ นั่นแล้วมองตาพี่เขา พี่เขาเองก็มองผมอย่างพึงพอใจ ผมสอดนิ้วเข้าไปนวดที่ท้ายทอยของพี่ยู แล้วพี่ยูก็ครางออกมาเบาๆ

“อะ อื้อ~”

ผมลูบไล้เขาอยู่ไม่นานเขาก็เอาคืน มือใหญ่ลูบไล้ที่สะโพกของผม ในตอนที่ผมนวดท้ายทอยเขาเบาๆ ผมต้องหยุดแล้วดึงผมสวย เพราะเขาเลื่อนมือจากสะโพกไปเป็นที่ตัวผม พี่ยูขยับมันเบาๆ แต่ผมโคตรรู้สึกดีเลย แน่นอนว่าไม่เคยมีใครทำแบบนี้กับผมมาก่อน แต่ถึงจะมี ผมก็กล้าบอกได้เต็มปากเลยว่าสิ่งที่เขากำลังทำให้ผมตอนนี้มันทำให้ผมรู้สึกดีสุดๆ

“ขยับหน่อยนะครับเบงกอล” เสียงทุ้มนั้นว่าที่ข้างหูผม แล้วดันอกผมเบาๆ

“อะ อื้อ~” ผมผงะถอยหลังเมื่อเขาเลื่อนมือลงต่ำ แล้วค่อยๆ สอดนิ้วเข้ามา ผมอยู่ในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอน ข้อศอกของผมเท้ากับเตียงนอน ขาผมอ้าออกกว้าง แล้วนิ้วพี่ยูก็ค่อยๆ ขยับเข้าขยับออก เหมือนจะไหว…แต่ก็ยากเกินไปสำหรับผม ผมช้อนสายตามองเขาอย่างขอร้อง แล้วคนหล่อก็ทำตามคำร้องขอของผม

“อยู่ท่านี้ก่อนนะ” พี่ยูบอกแล้วขยับลงจากเตียง ผมรู้ว่าเขาคงเดินไปเอาของของเขานั่นแหละ คนอะไรแม่งพกทั้งเจลทั้งถุงยาง ผมรู้…ผมรู้ว่าคนเราควรทำอย่างนั้น เพราะการมีเซ็กมันเป็นเรื่องปกติ แต่พี่ยูบอกว่าพกตลอดเลยนะเว้ย ไม่ใช่แค่ตอนไปเจอแฟนหรือตอนที่ตั้งใจจะทำ

แล้วผมแม่ง…ก็กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่ท่าเดิมตามที่เขาว่า ทำตามที่เขาบอกทุกอย่างอย่างง่ายดาย ก้มลงมองท่าทางของตัวเองแล้วก็หน้าแดง แม่ง…ท่าทางแบบนี้มันดูอิโรติกมากเกินไปสำหรับผม แต่ก่อนที่ผมจะได้หุบขาตัวเอง พี่ยูก็กลับมาอยู่ตรงหน้าผมเหมือนเดิมแล้ว

“อะ…พะ พี่ยู”

“หืม?” คนหล่อส่งเสียงถามในลำคอพร้อมๆ กับคิ้วสวยที่เลิกขึ้น ผมจับมือหนาไว้ก่อนที่มันจะขยับเข้ามาใกล้ผม ช้อนตามองเขาอย่างที่เคยทำ ไม่รู้หรอกว่าสายตาที่ส่งออกไปมันหมายความว่าอย่างไร แค่อยากจะอ้อนให้เขาเบาๆ กับผมหน่อยก็เท่านั้นเอง

“บะ เบาๆ นะ”

จุ๊บ!

แทนคำตอบรับ พี่ยูขยับมาจูบหน้าผากผม แล้วใจผมก็เต้นระรัวเพราะการกระทำของเขา ใจมันโลดแล่นอยู่จนไม่รู้ว่าเขากำลังแทรกนิ้วชื้นๆ นั่นเข้ามาในร่างกายผม เขาค่อยๆ ทำอย่างที่ผมขอไว้ ค่อยๆ กดเข้ามา แล้วมองผมว่าไหวหรือเปล่า

“อืม…ไหวนะ” เขาถามผม แล้วผมก็พยักหน้า

“อื้อ~ ฮึก!” ผมส่งเสียงออกมาเมื่อเขาขยับเข้าออกอยู่อย่างนั้น

“รู้สึกยังไงบอกได้นะ” พี่ยูว่า เหมือนเขาจะเป็นห่วงผม แต่ไม่รู้เลยว่าผมไม่ได้อยากให้ห่วง ผมเลื่อนมือตัวเองมาด้านหน้า กอบกุมตัวเองแล้วชยับตามจังหวะของเขา

“พะ พี่…ยู” ผมเรียกเขาอีกแล้ว เรียกเพราะรู้สึกดีกับสิ่งที่เขาทำให้จนไม่รู้ว่าจะพูดอะไรออกดี

“หืม? ว่าไง” เสียงหล่อกระซิบอยู่ข้างหู นิ้วสวยยังขยับเข้าออกเพื่อให้ผมคุ้นชิน แต่ตอนนี้ผมรู้สึกมากกว่าคุ้นชินแล้ว

“สะ เสียว” เออ! แม่งโคตรเสียวเลย

“แม่ง” พี่เขาสบถออกมาก่อนจะถอนมือออกไป หน้าหล่อมองมาที่ผมที่กำลังทำหน้าบิดเบี้ยว ผมรู้ว่าตัวเองไม่ทำหน้าตาแบบปกติ แต่ไม่รู้ว่าสีหน้าที่แสดงออกไปมันเป็นแบบไหน แต่มันต้องไม่ใช่ปกติแน่ๆ เพราะตอนนี้เหมือนพี่ยูมองผมแล้วกำลังจะสติแตก

“แฮ่ก! แฮ่ก!” ผมหอบหายใจเอาอากาศเข้าปอด เพราะเมื่อก่อนหน้านี้ร้องครางจนแทบไม่ได้หายใจ

“อะ…”

“ฮื้อ~” ผมสะดุ้งเมื่อพี่ยูขยับเข้ามาชิด จากเมื่อก่อนหน้านี้ไม่กี่ชั่วโมงผมเป็นคนคร่อมทับเข้าไว้ ตอนนี้เขาขยับขึ้นคร่อมทับและพร้อมขยับเอวอยู่บนตัวผมแทนแล้ว

“นิดเดียว” พี่ยูเอ่ยปลอบผมแบบนั้น พร้อมกับจูบที่ข้างหูผมเบาๆ แต่ขอโทษนะ นั่นมันไม่ใช่นิดเดียว!

“อะ อื้อ~”

“อืมมม” แม้ว่ามันค่อนข้างยาก แต่พี่ยูก็ยังคงใจเย็นและใจดีกับผม เขาค่อยๆ ขยับเข้ามา พอผมไม่ไหวเขาก็ขยับออกไปก่อน ทำอยู่แบบนั้นสักพักจนผมปรับตัวได้ พี่ยูเลยเข้ามาในตัวผมได้ทั้งหมด

คนตัวสูงขยับคร่อมผม และดันให้ผมนอนราบลงกับเตียง มือหนาปัดป่ายอยู่บนหน้าท้องผม และเอวสอบก็ค่อยๆ ขยับ ผมรู้ว่าผมส่งเสียงครางอีกแล้ว แต่ผมไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงครางออกมาดังขนาดนี้ ผมไม่รู้จะเรียกความรู้สึกดีที่ได้รับในตอนนี้ว่าอะไรดี มันทั้งสนุก ทั้งตื่นเต้น ทั้งอิ่มเอมไปพร้อมๆ กัน

“อะ อื้อ อ๊ะ! อะ”

“อืม…เบงกอล อืม…” พี่ยูเรียกชื่อผมอย่างที่เขาบอก เหมือนกับผมที่เรียกชื่อเขาบ้าง ครางออกมาอย่างไม่ได้ศัพท์บ้าง

พี่ยูขยับโยกแล้วทำให้ผมรู้สึกเหมือนว่าตอนนี้ผมอยู่ในความฝัน ผมแทบจะไม่อยากเชื่อว่าความรู้สึกแบบนี้มันเป็นของจริง ถ้าไม่ได้ยินเสียงเขา ถ้าไม่ได้สัมผัสเขา ผมคงไม่เชื่อตัวเองแน่ๆ ผมเลื่อนมือข้างหนึ่งไปดันหน้าท้องสวยๆ ของพี่ยูไว้ แล้วขยับตัวเองเป็นจังหวะเดียวกันกับเขาด้วยมืออีกข้าง พี่ยูจับเอวผมทั้งสองมือ จับบ้าง ขยับนวดเฟ้นมันบ้าง ผมไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะมีรอยช้ำตามตัวหรือเปล่า ถึงจะมีผมก็จะไม่บอกให้เขาหยุดหรอกนะ

“ฮื้อ! พี่ยู! พี่ยู…” ผมเรียกชื่อเขาซ้ำๆ เมื่อเขาขยับแรงขึ้น

“อา…เบงกอล”

เหมือนพี่ยูอยากแกล้งผม

เขาขยับตัวเองเร็วๆ จนผมแทบเบลอ ก่อนจะผ่อนแรงลงแล้วขยับตัวเข้ามาแรงๆ พอเข้ามาจนลึกที่สุดแล้วเขาก็ขยับออกไปจนตัวเราเกือบหลุดออกจากกัน พี่ยูทำอย่างนั้นอยู่สักพัก ดันเข้ามา แล้วขยับออกไป ดันเข้ามาจนเราแนบชิด แล้วขยับออกไปจนเราเกือบหลุดจากกัน แทนที่ผมจะหงุดหงิดที่เขาทำแบบนั้น แต่ผมกลับรู้สึกเสียวมากขึ้น เพราะตอนที่เขาขยับเข้ามาลึก มันก็ลึกสุดๆ ไปเลยยังไงล่ะ

“หืม? อ๊ะ!” พี่ยูโอบเอวผมแล้วดึงให้ผมลุกขึ้น เขานอนราบลงกับพื้นแล้วยกผมขึ้นบนตัวเขา ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก จนผมแทบไม่รู้ตัวเลย รู้ตัวอีกทีผมก็มานั่งแนบชิดอยู่บนตัวพี่ยูแล้ว

“ขยับสิเบงกอล”

“อะ อื้อ” ตอนที่บอกให้ผมขยับ เอวพี่เขาก็ขยับไปด้วย มือสองข้างยกตัวผมให้ลอยขึ้นเล็กน้อย แล้วเขาก็ขยับเข้ามาหาผม สักพักก็ปล่อยให้ผมได้ขยับเองตามที่ผมต้องการ

ผมโคตรรู้สึกดี

มือผมวางอยู่บนหน้าท้องของพี่ยู มือของเขาก็วางอยู่ที่ก้นของผม มือหนานั้นบีบเคล้นจนผมรู้สึกเสียว ทั้งๆ ที่ผมยังขยับเอวแต่พี่เขาก็ไม่ได้ปล่อยให้ช่วงล่างของผมเป็นอิสระ พี่ยูยังเล่นกับมัน ทุกส่วน…ทุกตารางนิ้ว

“อืม…เบงกอล ดี…อา เบงกอล”

“อื้อ! อ๊ะ! อะ…”

ยิ่งเขาบอกว่าดี ผมยิ่งได้ใจ ยิ่งพี่ยูเรียกผมมากเท่าไหร่ผมก็ยิ่งขยับเร็วเท่านั้น เสียงของเขาทำให้ผมในสั่น ร่างกายของเขากำลังทำให้ผมคลั่งไคล้ สายตาของเขาที่มองผมอยู่ตอนนี้ทำให้ผมตื่นเต้น จังหวะที่ผมกำลังขยับอยู่ทำให้ผมรู้สึกดี

“เบงกอล…อา เบง…”

“พี่! พี่ยู…ฮื้อ” ผมขยับแรงขึ้น เร็วขึ้น พี่ยูเองก็ช่วยผม เขาขยับโยกมือที่วางอยู่บนเอวผม เอวของเขาก็ขยับอยู่ด้านล่าง น่าแปลกที่เราต่างกันมากแต่จังหวะที่เรากำลังทำอยู่นี้เป็นจังหวะเดียวกัน เราขยับพร้อมกัน ส่งเสียงออกมาดังเท่าๆ กัน มองตากันเพื่อที่จะสื่อความหมายเหมือนๆ กัน รอยยิ้มของพี่ยูกำลังบอกผมว่าเขามีความสุข แล้วผมเองก็แม่งโคตรมีความสุข

“อา…เบงกอล”

“อะ…อื้อ!” ผมปลดปล่อยออกมา มันคงเลอะหน้าท้องของพี่ยู พี่ยูเองก็ปลดปล่อยอยู่ภายในตัวผม ไม่นานเขาก็ถอนตัวเองออกพร้อมๆ กับถุงยาง เขายกผมขึ้นเล็กน้อย แต่เท่านั้นก็มากพอที่จะทำให้ผมลุกออกจากตักพี่ยู แล้วนอนแผ่อยู่บนเตียงแทน

จุ๊บ! จุ๊บ!

พี่ยูขยับมาจูบที่แก้มผมเบาๆ แล้วเขาก็เลื่อนมาจูบที่ปากผม



#คำผานที่บ้านมีโคมไฟใหญ่กว่ารถถัง

วันศุกร์ที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2565

Call My Name! ผมไม่ได้ชื่อคำผาน CH.16 #ผมไม่ได้ชื่อคำผาน



Call My Name!  ผมไม่ได้ชื่อคำผาน


ตอนที่ 16

ผมไม่ได้ชื่อคำผาน




 “คำผาน กูขอทำนะ” ผมเอ่ยขอในที่สุด ผมไม่สามารถนอนหลับลงโดยที่ไม่ได้ครอบครองคนที่อยู่ตรงหน้านี้ ผมทำแบบนั้นไม่ได้จริงๆ

“อื้อ~” คำผานตอบออกมาในตอนที่เรามองตากันอีกครั้ง ผมยิ้มให้คำผานเมื่อได้ยินคำอนุญาตนั่น และผมก็มองตาคู่สวยที่ชวนให้ผมหลงใหลอีกครั้ง

“อืม~” ผมขยับเข้าประกบกับปากบางอีกครั้ง ครั้งนี้ไม่ใช่แค่เอาปากไปแนบปากให้ชิด ครั้งนี้คือการบดปากลงไป แทรกซึมเพื่อชิมริมฝีปากหวานๆ ประกบกินริมฝีปากด้านบน ก่อนจะวนกลับมาประกบริมฝีปากด้านล่าง คำผานเองก็ขยับปากตามจังหวะของผม มือนิ่มกำที่ขอบผ้าขนหนูผมแน่น ในขณะที่มือผมค่อยๆ เลื่อนไปปลดกระดุมเสื้อนอนของมัน

“อื้อ~” แล้วคำผานก็ชะงักเมื่อผมแทรกลิ้นเข้าไปชิมโพรงปากอุ่นๆ คำผานชะงักแต่ไม่ได้ขยับหลบไปไหน พอดีกับที่ผมปลดกระดุมเสื้อตัวบางนี้ได้สำเร็จแล้ว มือผมทั้งสองข้างจึงเลื่อนไปกุมแก้มสวยนั้นได้ กดปรับองศาที่ผมคิดว่าเหมาะสม เป็นองศาที่สามารถสร้างจังหวะวาบหวามได้แม้จะทำเพียงประกบปากกัน

“อืมมม จุ๊บ!” จังหวะที่ผมผละปากออกจากปากของคำผาน เสียงน่าอายดังตามไล่หลัง คำผานก้มหน้างุดตอนที่ระหว่างเรามีช่องว่างแล้ว ผมจับคางสวยให้เชิดขึ้นมองหน้าผมอีกครั้ง 

“ฮื้อ~” พอได้สบตากับ คำผานก็ส่งเสียงแปลกออกมา ผมรู้เลยว่ามันเขิน แล้วผมแม่งก็โคตรชอบเวลาที่มันเขินจนไปไม่เป็นแบบนี้ แก้มมันแดงมาก ปากบางนั้นเริ่มบวม และตาสวยนั้นฉ่ำวาวไปด้วยน้ำ

“เป็นอะไร” ผมถามยิ้มๆ อยากจะหลุดขำออกมาจริงๆ จังๆ แต่ก็กลัวคำผานเขินมากกว่านี้

“มันดีมากเลย” เสียงแหบบอกผมเบาหวิว หน้าผากสวยซบลงที่ไหล่ผมข้างหนึ่ง 

“มีดีกว่านี้อีกนะ” ผมกระซิบ

“ฮื้อ~” คำผานกดหน้าลงกับไหล่ผมมากกว่าเดิม ตัวเราแนบชิดกันมากขึ้น และทำให้ผมได้รู้ว่าต่างคนต่างมีอุณหภูมิร่างกายที่เพิ่มขึ้น ผมร้อน…คำผานก็กำลังร้อน

ผมก้มลงหอมผมหอมๆ ของคำผาน ขยับเข้าไปหามัน แล้วมันก็ขยับเท้าถอยหลัง ผมหอมแก้มนิ่มที่ผมหลงอีกครั้ง ก่อนจะประคองหน้าสีสวยมาใกล้ๆ ขยับตัวเองเข้าหาแล้วบดจูบลงไปที่ปากบางๆ นั่นอีกที ครั้งนี้คำผานจูบตอบได้ดีกว่าเดิม ปากของเราสองคนบดเบียดกันไปมา สลับด้านบน สลับด้านล่าง ผมแทรกลิ้นเข้าหาลิ้นชื้นข้างใน ครั้งนี้ลิ้นเล็กนั้นไม่ได้ขยับหลบหนี แต่กลับขยับเข้าหาเหมือนจะสู้ 

“อื้อ~”

“อืม~” ต่างคนต่างสลับดูดดุนเพื่อหาความหวานของกันและกัน คำผานเรียนรู้ได้เร็วมาก หรือเป็นเพราะว่าผมชอบที่มันเป็นแบบนี้ก็ไม่รู้ มันทำให้ผมใจเต้นแรงได้ด้วยท่าทางของมัน ทุกการขยับ และทุกองศามันกำลังทำให้ผมหลงใหล ผมอยากเข้าหามากกว่านี้ อยากแนบชิดมากกว่า อยากดูดดื่มมากกว่าที่กำลังทำอยู่

“อ๊ะ!” 

“หึ!”

ก็บอกแล้วว่าข้างหลังนั่นโซฟา

คำผานชนกับขอบโซฟาและนั่งลงตรงนั้น ผมขยับเข้าหาทันทีไม่ได้ปล่อยเวลาให้ว่างไปมากกว่านี้ ตอนนี้อารมณ์ผมมันไต่สูงเกินกว่าจะรีรออะไรทั้งนั้น คำผานเองก็คงไม่ต่าง เพราะตาเล็กนั่นกำลังเยิ้มอย่างยั่วเย้า เจ้าตัวรู้หรือเปล่าไม่รู้แต่ทุกท่าทาง ทุกการแสดงออกของคำผานตอนนี้กำลังยั่วยวนผม ถ้ามันตั้งใจผมบอกเลยว่ามันได้ผล แต่ถ้ามันไม่ได้ตั้งใจผมบอกเลยว่าผมไปไหนไม่รอดแน่ๆ

“อื้อ! พะ…พี่ยู” เสียงหวานเบาหวิวตอนที่ผม ผละออกจากปากแล้วลากลิ้นมาที่ซอกคอ กดจูบคออุ่นๆ หอมๆ นี่นานๆ ความจริงอยากฝากรอยเอาไว้ แต่มันคงไม่เหมาะสม ผมขบเม้มเบาๆ แล้วคำผานก็ดิ้นเร่าๆ มือที่ไม่เคยแตะที่อกผมก็เลื่อนมาแตะ 

“อืมมม”

“อื้อ~ สะ…เสียว” เสียงหวานว่าออกมาอย่างนั้นเมื่อผมขยับปากลงต่ำกว่าเดิม ครอบเอาเม็ดสีสวยที่อยู่บนอกขาวๆ แล้วค่อยๆ ขยับลิ้น ดูดกินมันอย่างกับคนบ้าคลั่งที่ไม่เคยกินอะไรแบบนี้มาก่อน คำผานบิดไปมา ปากสวยครางออกมาไม่หยุด เสียงดังขึ้นเรื่อยๆ แข่งกับเสียงหอบหายใจ ยิ่งตอนที่ผมสลับข้าง แล้วใช้มือสะกิดอีกข้าง คนตัวบางยิ่งเสียงดัง

“อืม จุ๊บ!” 

มันหวาน…

คำผานหวานไปทั้งตัว ผมไม่อยากจะหยุดอยู่แค่ปาก ไม่อยากหยุดแค่คอ ไม่อยากหยุดแค่เม็ดบนอก ผมแอบฝากรอยไว้ที่ใต้ราวนมมันหนึ่งรอย มันอดใจไม่ไหวจริงๆ ผิวขาวๆ มันเหมาะกับรอยช้ำๆ ที่ผมฝากไว้มากๆ แม้ว่าหลายคนจะบอกว่าไม่ให้ทำอะไรมัน แม้ว่าหลายคนจะบอกว่าผมมันไม่คู่ควร แต่สิ่งที่ผมกำลังจะทำต่อไปนี้ เป็นสิ่งที่บอกผมได้ว่า มันไม่ได้ไกลเกินที่ผมจะเอื้อมถึง มันอยู่ตรงหน้าผม และผมกำลังสัมผัสทุกตารางพื้นผิวของมัน

จากปากเป็นคอ จากคอเป็นอก จากอกเป็นเอว มือผมเลื่อนลงต่ำกว่านั้น ต่ำว่าสะดือและนวดเฟ้นเบาๆ ที่ก้อนนิ่มๆ ด้านหลัง มันนุ่มสบายมืออย่างที่ผมไม่เคยทำมาก่อน ขนาดมีเนื้อผ้าปิดบังอยู่ยังนุ่มมากขนาดนี้ ผมแทบอยากฉีกกระชากกางเกงของมันออกเพื่อที่จะได้สัมผัสแค่เนื้อนุ่มๆ นั่น

พรึบ!

“ฮื้อ~ มะ…มัน…” คำผานดึงผ้าเช็ดตัวผมหลุด แล้วมันก็หลุดลงไปกองตรงพื้น แน่นอนว่าผมยังไม่ได้ใส่อะไรข้างในสักชิ้น เทพตัวน้อยของผมทักทายคำผานอยู่แน่ๆ หน้าที่แดงอยู่แล้วแดงกว่าเดิมเข้าไปอีก มือน้อยยกขึ้นปิดหน้าตัวเอง ส่งเสียยงที่แสดงออกว่าเขินอายออกมาอย่างไม่กลัวว่าผมจะล้อ

“หึ!” ผมหลุดขำเมื่อเห็นท่าทางแบบนั้นของคำผาน

เด็กน้อย…เป็นเด็กน้อยที่ทำตัวน่ารัก แล้วก็รู้สึกว่าอยากทำให้เติบโต อยากทำให้มันได้เรียนรู้ อยากสอนให้มันรู้ว่าอีกโลกหนึ่งที่มันไม่เคยเข้าไปมันเป็นยังไง

“พี่…” เสียงหวานเอ่ยเรียกผมแผ่วเบา พร้อมกับมือเล็กที่ลดลงจากหน้าของตัวเอง

“อะไร” ผมถาม เสียงผมนุ่มกว่าทุกครั้งที่เคยคุยกัน ไม่รู้ว่าคำผานรู้ไหม แต่ผมตั้งใจปรับโทนเสียงจริงๆ และผมก็อยากจะใช้โทนเสียงนุ่มๆ หวานๆ แบบนี้คุยกับมันบ่อยๆ

“ผะ…ผมจะเจ็บมากไหม?” มันถาม ตาเล้กนั่นไม่ได้มองลงต่ำเหมือนทุกครั้ง เพราะครั้งนี้มันรู้ว่าถ้ามองลงไปแล้วมันจะเจออะไร

“ไม่หรอก” ผมบอกแล้วคว้าเอากระเป๋าสะพายของตัวเอง ใช่…ผมเอาของพวกนั้นใส่ไว้ในกระเป๋าตลอดแหละ ผมมีทั้งถุงยางและเจล ก็ผมไม่รู้นี่ว่าต้องใช้อะไรแบบนี่ไหนหรือเมื่อไหร่ ผมไม่ได้ตั้งใจเอามาใช้กับคำผานโดยเฉพาะ แต่ผมพกของพวกนี้เป็นประจำอยู่แล้ว

“นี่พี่…”

“กูพกตลอด” ผมบอก แล้วเด็กที่นั่งแบะอยู่ตรงโซฟาก็หน้าแดงขึ้นไปอีก 

“แต่…แต่ผมก็กลัว” มันว่าในตอนที่มองของพวกนั้นที่อยู่ในมือผม

“ถ้าอย่างนั้นก็หันหลังให้พี่นะครับ”

“…” คำผานนิ่งไปแล้ว คนตัวเล็กมองหน้าผมค้างอยู่อย่างนั้น เราสองคนสบตากัน แล้วผมก็ได้รู้ว่าคำผานเขินมากแค่ไหน แต่มากกว่าความเขินที่ตาคู่สวยนั้นแสดงออก มันเหมือนว่าจะมีความสุขอยู่ในนั้น จะเรียกว่าความสุขเลยไหมผมก็ไม่รู้ เพราะผมไม่ค่อยได้เห็นสายตาแบบนี้จากคู่นอนคนไหน คำผานเม้มปากแล้วมองผมอย่างชั่งใจ ผมยิ้มให้มันอย่างอ่อนโยนอีกครั้ง แล้วคนที่นั่งอยู่ก็ค่อยๆ ขยับหมุนอย่างเคอะเขิน

ผมจัดการกับตัวเองแล้วค่อยๆ ดึงกางเกงตัวบางนั้นออก ก้นขาวสวยอยู่ในระดับสายตาพอดีในตอนที่ผมก้มลงมอง ผมอดใจไม่ไหวที่จะยื่นมือไปสัมผัส คำผานสะดุ้งเล็กน้อย แต่ก็ค่อยๆ ผ่อนคลายลงเมื่อผมลงน้ำหนักมือมากขึ้น ผมคิดว่าช่วงแรกๆ มันยังไม่ชิน มันยังเกร็ง และมันยังกลัว แต่ถ้าผมค่อยๆ ทำ ทั้งผมและคำผานก็จะค่อยๆ มีความสุข

“ทำไมตัวหอมจัง” ผมกระซิบบอกอยู่ที่ท้ายทอยของคำผาน

“ฮื้อ~” มันส่งเสียงออกมาอย่างนั้นแล้วหันมามองผม ผมยิ้มให้ก่อนจะก้มลงไปกดจูบที่ปากอีกทีแล้วผละออกมา คำผานเขินม้วนไปแล้ว แต่ผมก็ยังคลอเคลียแถวๆ หลังหูอยู่ไม่ห่าง

“กูพูดจริงๆ” มันหอมมากจริงๆ ผมไม่ได้พูดเพื่อหลอกล่อหรือเอาใจ แต่กลิ่นของคำผานมันหอมจนผมไม่อยากจะหยุดดมหรือหยุดจูบเลยสักนิดเดียว

“อะ…พะ พี่ยู…”

“ไม่เจ็บหรอก กูจะค่อยๆ ทำ” ผมบอกในขณะที่กดตัวเองเข้าไปหาคำผาน 

“ฮื้อ~”

“อืมมม” 

ความรู้สึกที่ผมอยากบอกว่ามากกว่ารู้สึกดีถาโถมเข้ามาในตอนที่ผมกดตัวเองเข้าไปจนหมด เจลหล่อลื่นช่วยได้เยอะมาก และคำผานเองก็เก่งมากๆ เหมือนกัน ความอุ่นร้อนที่ผมกำลังสัมผัสอยู่ทำให้ผมอยากจะขย้ำมันเร็วๆ แต่พอมองหน้าเหยเกของคนด้านล่างผมก็เลยค่อยๆ ขยับ

“อื้อ!”

“อืม”

ค่อยๆ ขยับ สลับกับค่อยๆ จูบ

มือผมนวดที่เอวของคำผานอย่างแผ่วเบา มืออีกข้างก็วางที่แผ่นหลังบอบบางนั่นอย่างระวัง กลัวว่าถ้ากดแรงเกินไปมันจะเจ็บ หรือถ้าลงน้ำหนักมือมากเกินไปตัวมันจะช้ำ คำผานเองก็เกาะขอบโซฟาไม่ปล่อย เกาะแน่นและหันมามองผมอยู่ตลอด ผมจูบที่ปากบาง เลื่อนลงมาที่หลังหู ซุกหน้าเข้าที่ซอกคอ แล้วค่อยๆ ขยับตัวเองไปด้วย

“อะ…อื้อ~”

“อืม คำผาน…แม่ง” ผมไม่รู้ว่าควรจะสบถคำไหนหรืออุทานออกมายังไงดี มันทำให้ผมรู้สึกดีมากๆ ทุกจังหวะ ทุกเสียง ทุกการกระทำที่ผมกับคำผานกำลังทำอยู่ เป็นสิ่งตอกย้ำและบอกกับผมว่ามันเป็นของผม เป็นของผมแล้วแม้ว่าใครหลายคนจะบอกว่าไม่คู่ควร ผมไม่รู้ว่าผมจะทำให้มันเสียใจไหม และผมก็ไม่รู้ว่าวันข้างหน้ามันจะเจอคนที่ดีกว่าแล้วทิ้งผมไปหรือเปล่า

แต่ตอนนี้เราสองคนกำลังมีความสุขด้วยกัน

“อ๊ะ! พี่…ยู อื้อ~” เสียงครางกระเส่าของมันทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้ฟัง แม้ว่าคำผานจะพูดออกมาแค่คำเดิมแต่ผมแม่งโคตรมีความสุขเลยที่ได้ฟังคำนั้น มันส่งเสียงที่จับใจความไม่ได้ ไอ้ที่พอจะฟังรู้ความหน่อยก็คือชื่อของผม

“คำผาน…” ผมลูบผมสวยนั้น ไล้นิ้วแผ่วเบาที่กรอบหน้า วาดลงที่จมูกแล้วกดเบาๆ ที่ปาก

งับ~

คำผานงับเอานิ้วของผม มันยึดทั้งนิ้วชี้และนิ้วกลางของผมไว้ด้วยปากของมัน ลิ้นชื้นกำลังตวัดละเลงเล่นกับนิ้วผมที่อยู่ในปาก ไม่ต่างจากมือผมที่กำลังฟอนเฟ้นเคล้นคลึงที่เอวสลับกับก้นนุ่มๆ มือของผมวางอยู่ไม่ไกลจากบั้นท้ายของมัน เอวของผมขยับไม่เคยหยุด ผมมองเห็นทั้งหมด ทั้งนิ้วของมที่กำลังถูกมันกลืนกิน ทั้งตัวตนของผมที่กำลังถูกมันครอบครอง

“อะ อา…ฮื่อ” คำผานปล่อยนิ้วผมให้เป็นอิสระ มันส่งเสียงครางดังขึ้นเมื่อผมขยับเร็วขึ้น หน้าสีระเรื่อเอี้ยวมามองผม พอดีกับที่ผมใช้มือข้างที่เพิ่งเป็นอิสระปัดป่ายแถวๆ ตัวตนของมัน

แปะ! แล้วคำผานก็ปัดมือผมออก นิ้วเรียวสวยกอบกุมเข้าที่ตัวตนอุ่นๆ ของตัวเองแทนที่จะเป็นโซฟา ผมเลยได้วางมือทั้งสองข้างไว้ที่บั้นท้ายสวยๆ ของมันแทน มือข้างหนึ่งของคำผานยังเกาะขอบโซฟาไว้เหมือนเดิม และมืออีกข้างก็ยังขยับที่ตัวตนของตัวเอง เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ผมขยับเอว

“อา อืม” ผมสบสายตาคู่ฉ่ำแล้วหยุดตัวเองไม่ได้เลย รู้เลยว่าถ้าหยุดตอนนี้แม่งโคตรจะกากมากแน่ๆ สายตาของคำผานกำลังสะกดผม ไม่ได้บอกให้ผมหยุด แต่กำลังอ้อนขอแกมสั่งให้ผมขยับต่อ ปากสวยเผยอครางไม่หยุด ตาหวานนั้นมองผมไม่ละสายตา และผมเองก็ไม่ได้มองไปทางไหนนอกจากหน้าใบหน้ายั่วยวนและร่างกายที่ยั่วเย้าของมัน

แบบนี้สินะที่เขาเรียกกันว่ากวาง

“อะ อา…สะ เสียว พี่ยู”

“อืม…”

“พี่ยู ผม…เสียว”

“อ่า…” ผมบอกอะไรออกไปไม่ได้ เพราะผมเองก็เสียวและรู้สึกดีมากๆ ไม่ต่างจากคำผาน ผมขยับเข้าขยับออก และคำผานเองก็ขยับตอบ ตัวคนที่อยู่ด้านล่างสั่นคลอนไปตามจังหวะที่ผมเป็นคนชักนำ ปากหวานครางชื่อผม และบอกความรู้สึกกับผมอยู่ตลอดเวลา พอเป็นแบนี้ผมก็ยิ่งขยับเร็วขึ้น หนักขึ้น และตัวของเราสองคนก็แนบแน่นขึ้น

“พี่ยู! พี่ยู! อ๊ะ!”

“อ๊ะ! อา” 

ผมกดตัวเองเข้าไปแนบชิดกับมันในจังหวะสุดท้าย แรงกระตุกรัดทำให้ผมรู้ว่าอีกคนกำลังปลดปล่อย ความสุขสมทำให้ผมต้องเชิดหน้ารับความรู้สึกอิ่มเอมนี้ ก่อนจะค่อยๆ ก้มหน้าลงมามองคนที่อยู่ด้านล่าง แล้วค่อยๆ ถอนตัวเองออกจากมัน 

แบ่บ!

คำผานทิ้งตัวเองลงกับโซฟา มันค่อยๆ หอบหายใจ เสื้อนอนตัวบางนั่นสั่นไหวไปตามจังหวะกระเพื่อมของหน้าอก เรียวขาสวยเปรอะเปื้อนไม่ต่างจากมือของมัน ตาสวยนั่นค่อยๆ ช้อนมองผมอย่างกล้าๆ กลัวๆ ผมเก็บเศษซากที่ตัวเองทำเลอะไปทิ้งที่ถังขยะแถวๆ นั้น แล้วเดินกลับมาหาคนที่มองทุกๆ การกระทำของผมตลอด

“พี่…” มันเรียกผมแล้วก้มลงมองตัวเอง 

“แม่ง…” เออ แม่งเอ๊ย! เห็นสภาพแล้วอยากจับมาเขย่าอีกสักรอบ 

“ขอบคุณ” มันบอกขอบคุณหลังจากที่ผมยื่นทิชชู่ให้ หน้าฉ่ำนั้นยังไม่หายแดงเลยสักนิด 

“ขอบคุณอะไรกันล่ะ” ผมว่าแล้วดึงเอาผ้าเช็ดตัวมาคลุมตัวเองอีกรอบ แล้วนั่งลงที่โซฟาข้างๆ มัน

พรึบ!

คนตัวเล็กขยับเข้ามาหา มันซบลงที่ไหล่ผม แล้วผมก็ค่อยๆ กอดมันกระชับเข้าหาตัวเอง เราสัมผัสได้ถึงจังหวะหัวใจของกันและกัน มันกำลังค่อยๆ ผ่อนคลาย จากที่เต้นเร็วและแรงกำลังค่อยๆ ผ่อนเข้าสู่จังหวะปกติ คำผานขยับซุกเข้ามาหาผม แล้วผมก็ก้มลงหอมหน้าผากของคำผาน

“ทำไมมันดีจังวะ” มันบอก

“หึ! ดีแล้วให้กูทำบ่อยๆ ไหมล่ะ?” ผมแกล้งถาม แล้วคนตัวเล็กก็ไม่ตอบ กลับก้มหน้าเขินอยู่ที่ซอกคอผม

จุ๊บ! ปากบางประกบเข้าที่เรียวคางของผม ผมยิ้มให้มันก่อนจะเขี่ยที่แก้มสีระเรื่อนั้นเบาๆ

“ความจริงผมไม่ได้ชื่อคำผาน” มันบอกผมหลังจากที่เรากอดกันแบบนั้นอยู่สักพัก

“หืม?” ก็พอจะรู้แหละว่ามันไม่น่าจะชื่อคำผาน แต่ก็ไม่เคยได้ถามว่าชื่อจริงๆ มันชื่ออะไร พอมารู้ตอนที่มันบอกเองแบบนี้ก็เลยตกใจนิดหน่อย

“นั่นแหละ…ผมไม่ได้ชื่อคำผาน”

“แล้วมึงชื่ออะไร?”

“ผมชื่อเบงกอล”



#คำผานที่บ้านมีโคมไฟใหญ่กว่ารถถัง

Twitter : @pflhzt

Facebook : faddist

วันอาทิตย์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

Love Mechanics กลรักรุ่นพี่2 CH.22 ที่ไม่เคยเปลี่ยนไป


Love Mechanics กลรักรุ่นพี่2






 

CH.22

ที่ไม่เคยเปลี่ยนไป



 





“พี่…อื้อ~” ปากสวยประกบลงมาหาผมทันทีที่ผมอ้าปาก ยังไม่เรียกชื่อเขาด้วยซ้ำแต่พี่วีก็กระแทกลงปากลงมาหาแล้ว คราวนี้เป็นพี่วีที่จูบ จูบแบบที่ไม่ยอมแพ้ผมในตอนนั้น จูบแบบที่ผมรู้เลยว่านี่คือการลงโทษจริงๆ

“เรียกชื่อพี่ให้ทันแล้วกัน” พี่วีว่า ตาคมก็มองผมอย่างท้าทายขณะที่พูดแบบนั้น

“พี่วี…” ผมเรียกชื่อพี่เขาเบาๆ แล้วช้อนตามองพี่วีอีกรอบ 

“อ่อยแค่กูแบบนี้ก็พอแล้ว”

“อื้อ พะ…พี่…” พี่วีซุกเข้ามาที่คอของผม ไซร้มันเบาๆ แต่ผมกลับรู้สึกอย่างรุนแรง

“อืมมม” พี่วีจูบตรงนั้น ขบตรงนี้ ผละออกแล้วซุกเข้าอยู่แบบนั้นเรื่อยๆ ส่วนผมที่นอนทอดตัวให้พี่เขาซุกก็ได้แต่บิดไปมาไม่หยุด

พี่วีไล่จูบจากคอมาเป็นไหล่ จากไหล่มาเป็นไหปลาร้า แล้วเลื่อนลงมาที่แผ่นอกของผม พี่วีดูดมันซ้ำๆ แล้วนิ้วเรียวๆ ของพี่เขาก็ตะตามตัวผมไม่หยุด ลูบไล้แล้วบีบเคล้นจนผมนอนเฉยๆ ไม่ได้

“อื้อ พี่วี…อ้ะ!” ผมสะดุ้งเกือบสุดตัวเมื่อลิ้นชื้นๆ นั่นแลบเลียที่เม็ดเล็กๆ บนอก พี่วีครอบมันเข้าไปในปาก ใช้ลิ้นสัมผัสกับมันอยู่อย่างนั้นจนผมรู้สึกถึงความแข็ง

“อืมมม”

“อื้อออ” เม็ดที่พี่วีบอกว่ามันเป็นสีชมพูแข็งจนสัมผัสกับอากาศแล้วผมรู้สึก

“หึ”

“อ๊ะ!” ผมกระตุกอีกครั้งเมื่อพี่วีแกล้งปัดนิ้วผ่านเม็ดแข็งๆ บนอกผม

“ทำไม”

“อื้อออ” ตอนแรกคิดว่าการลงโทษมันจะแค่รุนแรง แต่ไม่ใช่…พี่วีไม่ได้รุนแรงแต่พี่วีเน้นทุกส่วน เหมือนตอนนี้ที่ขยี้เม็ดบนอกผมอยู่

“มาร์คคค” เสียงกระเส่าเรียกชื่อผมที่ข้างหู นิ้วเรียวๆ ก็ยังสะกิดอยู่บนอกทั้งสองข้าง

“พี่วี! อื้อ อ๊ะ!...” ผมดิ้นพล่าน บิดไปมาจนเตียงคงยับไปหมด แต่พี่วีก็ยังกดนิ้วลงมาหนักๆ แล้วสลับก้มลงดูดมันแรงๆ 

“จุ๊บ! จ้วบ!”

“อื้อ!” ผมแอ่นตัวขึ้นเป็นอัตโนมัติ แอ่นอกขึ้นหาปากเขาอย่างห้ามไม่ได้ ไม่ได้ใช้สมองสั่งการเลยสักนิด เหมือนใช้ไขสันหลังล้วนๆ อีกแล้ว 

แค่ลิ้นพี่วีกระตุ้นตัวผมก็ตอบสนอง

“อืมมม”

“อือออ” ผมผ่อนลมหายใจเมื่อพี่วีปล่อยจากที่เดิมแล้ววนลิ้นไปที่ใหม่ ลากเลียลงไปเรื่อยๆ จนผมต้องเกร็งตัวตามทุกที่ที่พี่เขาลากผ่าน

“ก็ยังเป็นของกูทุกอย่างหนิ” พี่วีว่า หลังจากที่เงยหน้าขึ้นมองผม

“ก็ของพี่ ของพี่…อื้อ!” ผมบิดเร่าๆ เมื่อพี่เขาทำมากกว่าเดิม 

มือสวยเลื่อนผ่านตัวผมแล้วกุมมันเบาๆ ลูบไปมาจนผมอดไม่ได้ที่จะแยกขาออกให้เขา ปรือตามองคนที่วนเวียนกับส่วนนั้นของผม อยากจะยั่วเขาด้วยสายตาแต่ว่าตอนนี้เขาไม่ได้มองตาผม เขามองอย่างอื่นอยู่ ผมขยับเอวเล็กน้อยเมื่อพี่เคล้นหนักๆ ที่สะโพก ยกตัวขึ้นเล็กน้อยเมื่อเขาเหลือบตาขึ้นมามองผม

อยากทำหนักๆ ใช่ไหม ตามสบายเลยครับพ่อ

“หึ…ยั่วให้ตลอด” พี่วีว่า พร้อมกับมองมาที่ผมอย่างท้าทาย

“ก็ยั่วพี่ตลอดอยู่แล้ว” ผมบอก

“อืมมม”

“อื้อ!” ลิ้นเรียวละเลงลงไปที่ช่องทางของผม พี่วีค่อยๆ ขยับปาก มันช้ามากแต่กลับหนักหน่วง เน้นลงมาจนผมรู้สึกถึงความลึก แต่ก็นั่นแหละ ผมทำอะไรไม่ได้นอกจากอ้าปากครางและอ้าขาให้เขาทำต่อ

“อืมมม” พี่วีผละออกมา คนหล่อมองผลงานของตัวเองซึ่งก็คือผมที่นอนหอบอยู่ตรงนี้ พี่เขากระตุกยิ้มที่มุมปาก แล้วยื่นมือขึ้นมาเช็ดน้ำลายที่มุมปากของผม

“อื้มมม” ผมอ้ารับเอาลิ้นนั้นเข้ามาในปาก ดูดเลียมันช้าๆ จนชุ่มฉ่ำ ขบมันเขาๆ แล้วปรือตามองเขาที่ขบกรามอยู่ จะว่าพี่วีเป็นต่อเหรอ ไม่มีทางหรอก เรื่องแบบนี้ผมเองก็คิดว่าผมเด็ดพอตัว แต่ที่เป็นอยู่นี่ก็คืออยากเอาใจเขา อยากเอาใจพี่วีและอยากทำให้พี่วีเชื่อใจ 

เชื่อใจผมเหมือนเดิม

“เรียกชื่อกู” พี่วีบอก

“พี่วี…อื้อ~” ผมว่าออกมา ปลายนิ้วสวยที่ผมเคยดูดค่อยๆ แทรกเข้ามาในตัวผม

“ของใคร”

“พี่วี…” ผมว่าแล้วผ่อนลมหายใจออกมาอย่างช้าๆ เมื่อพี่วีแช่ค้างนิ้วสวยนั้นไว้และไม่มีท่าทีว่าจะยอมขยับ

“ใครนะ?”

“พี่วี…”

“จริงเหรอ?”

“อื้อออ พี่วี~” ผมเด้งเอวขึ้นอย่างห้ามตัวเองไม่ได้ เมื่อนิ้วสวยค่อยๆ ขยับเข้าออกอย่างช้าๆ

“ให้มันพี่วีตลอด” พี่วีว่าแล้วค่อยๆ ถอนนิ้ว

“อื้อ อื้อออ” ผมครางจนแทบไม่มีเสียงเมื่อสิ่งที่ใหญ่ว่านิ้วค่อยๆ แทรกเข้ามาในตัวผม ผมแอ่นสะโพกรับอย่างห้ามไม่ได้ แต่มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรได้มากมายนัก

“อย่าเกร็ง” พี่วีบอก แต่มันก็เท่านั้นแหละ เพราะตอนนี้ผมเจ็บมากๆ

“แน่น” ผมว่าออกมา แทบจะไม่มีเสียงอยู่แล้ว แต่ก็พยายามเค้นบอก

“อืมมม กูรู้” พี่วีว่าแต่ก็ไม่ได้ขยับไปไหน

“พี่วี~”

“อะไร?”

“ทำ ขยับนะครับ” ผมเอ่ยอ้อน แล้วบีบที่แขนพี่วีเบาๆ ก่อนจะขยับสะโพกของตัวเอง

“น้องมาร์คเป็นใครครับ” 

“อื้อ~” ผมครางเมื่อพี่วีถามหนึ่งคำถามพร้อมกับขยับหนักๆ ครั้งหนึ่ง

“หืมมม”

“อื้อออ”

“เป็นอะไรกับพี่วีครับ”

“อื้อ พี่วี~ ของพี่วี” ผมบอกพลางหอบหายใจหนัก

“อะไรของพี่วี”

“อื้อ~”

“หืม?”

“มะ…อื้ออ เมีย”

“อืมมม” พี่วีครางรับในลำคอ เมื่อผมตอบแล้วขยับตัวเข้าหา 

เอวสอบเริ่มขยับแต่ยังไม่มีท่าทีว่าจะรุนแรงสักนิด พี่วีเน้นหนักและขยับช้าๆ ผมแทบจะขาดใจตายอยู่แล้ว แทบจะตายกับพี่วีในจังหวะนี้แล้ว แต่ผมก็ยังหอบหายใจเอาอากาศเข้าปอด แล้วทอดตัวให้พี่วีกระทำแบบที่เขาอยากทำต่อไป อยากเอ่ยขอให้มากกว่านี้ แต่พี่วีมอบให้แค่ความเสียวกระสันผมก็ต้องยอมรับ

รับบทลงโทษของพี่เขาแต่โดยดี

“พี่วี~ อื้อออ พี่วี…” เสียงครางดังชัดพอๆ กับเสียงเรียกชื่อ เพราะทุกครั้งที่ขยับออกพี่วีขยับออกเกือบสุด แล้วพอขยับเข้าพี่วีก็ขยับเข้ามาลึกจนผมต้องเรียกชื่อพี่เขาดังๆ เพื่อขอให้พี่เขาทำแรงๆ

“อืมมม มาร์ค” แต่พี่วีก็ยังัชอบใจกับจังหวะเนิบช้าแต่หนักหน่วงนี้ เพราะพี่วียังย้ำต่อ ย้ำจุดที่ทำให้ผมครางแทบสุดเสียงแบบนี้ต่อ

“พี่วี อื้มมม อ้า~” เอวสอบขยับหมุน และการกระทำนั้นยังเชื่องช้าจนผมแทบขาดใจเหมือนเดิม

“อืมมม” พี่วีครางรับเมื่อผมสวนสะโพกกลับ หมุนรับกับสะโพกของเขาที่เน้นหนักไม่หยุด

“พี่…ผมจะ…อื้มมม” 

“จะอะไร หืมมม” พี่วีถามเสียงต่ำ เสียงหอบกระเส่าดังอยู่ข้างหู ปากพี่วีแนบลงที่ข้างแก้ม ลากเลียแล้วกดจูบพร้อมๆ กับข้างล่างที่ขยับไม่หยุด 

“ผม อื้มมม” ผมปลดปล่อยออกมาเมื่อพี่วีขบที่ติ่งหูของผมเบาๆ 

“อืมมม” แล้วผมก็ได้ยินเสียงครางต่ำๆ พร้อมกับรับรู้ถึงความอุ่นชื่นมากมายที่ด้านล่าง ผมทิ้งขาลงอย่างหมดแรง ทั้งๆ ที่แค่นอนเฉยๆ แต่มันก็เหมือนกับผมเป็นคนขยับอย่างหนักหน่วง ทั้งๆ ที่แค่ครางชื่อพี่วีกับขยับตามจังหวะหนักๆ นั่นมันก็ทำเอาผมแทบตายลงตรงนี้

“ผม…” ผมอยากขอน้ำดื่ม นมที่ดื่มไปเมื่อก่อนดึกมันไม่ได้ช่วยอะไรให้ผมอิ่มสักนนิด

วันจันทร์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2563

Love Mechanics กลรักรุ่นพี่2 CH.13 #คำสัญญา


Love Mechanics 

กลรักรุ่นพี่2 




 

CH.13

#คำสัญญา



“อืม จุ๊บ! จ๊วบ!” เข้าใจเมื่อคนตัวเล็กกว่าคุกเข่าลงไปแล้วครอบปากเข้ากับส่วนนั้นของผม เข้าใจเมื่อมันไม่ได้ค่อยๆ ไล่เลียงหรือละเลงเบาๆ มันดูดดุนและขบเม้ม ตวัดลิ้นเลียจนผมแทบจะขาดใจ นั่นมันทำให้ผมรู้ รู้ว่ามาร์คกำลังจะลงโทษผม

รางวัลเรียนจบเหรอ?

ไม่ตายคาอกมาร์ควันนี้ค่อยว่ากันอีกทีนะ

“มาร์ค เบา มาร์ค…” ผมพยายามขยับห่างแต่มันทำไม่ได้ เอวผมมันอยากขยับเข้าหาปากของมาร์คมันตลอดเลย แล้วมือผมที่น่าจะผลัมาร์คออกกลับดึงคอมันเข้ามาหาทุกจังหวะที่มันกดปากเข้ามา

“อือ…อืมมม อ่อก…”

“อือออ อ่า…” ผมปล่อยมันออกมาเพียงแค่มาร์คมันปาดลิ้นลงที่ส่วนปลาย แต่แทนที่จะปล่อยออกมานอกปากน้องกลับเผลอกดตัวเองเข้าไปในความอุ่นร้อนนั้น

“อืม” มาร์คขยับออกห่างจากผม มันนั่งลงกับพื้นหน้าตู้เสื้อผ้า ตาสวยช้อนมองผม แล้วการช้อนมองเหมือนโกระแบบนั้น โดยที่มุมปากยังติดคราบขาวๆ ของผมอยู่แบบนี้

“เด็กเหี้ย” ผมดุมันเบาๆ ยื่นมือไปเช็ดคราบน้ำนั่นออกแต่มาร์คสะบัดหน้าหนีแล้วใช้หลังมือเช็ดออกเอง

“ไม่ต้องมายุ่ง” เวร! ตายแน่ ผมนี่ตายแน่ๆ

“มาร์คครับ ฟังกูก่อน”

“ไม่ฟัง หยุดอยู่ตรงนั้นเลย” มาร์คบอก มือขาวโยนผ้าเช็ดตัวมาให้ผม แต่ผมก็แค่รับมันมาถือไว้ ขาที่จะเคยจิกอยู่กับพื้นกำลังเดินตามเมียไปที่เตียง ก็ถ้าหยุดตามที่มันพูดจริงๆ ผมคงใจขาดตายอยู่ตรงนี้ ทั้งโดนโกรธ แถมยังโดนทำโทษโดยการยั่วแล้วไม่…ทำอะไรผมต่อมากกว่านี้อีก 

“กูตั้งใจจะบอกมึงวันนี้ คือ…ขอโทษแหละ แต่ไม่รู้จะบอกยังไง” ผมบอกทั้งๆ ที่ยังยืนอยู่ปลายเตียง มองมาร์คที่ยังตวัดสายตามาหาเพื่อบ่งบอกว่างอนผม งอนแบบมากๆ เลยแหละ เพราะขนาดผมยืนเปลือยอยู่ตรงหน้ามันยังไม่มีเวลาเขินเลย

“แล้วเมื่อกี้บอกยังไง” มันว่า

“มึง...บังคับ”

“แล้วอีกเดือนเดียว พี่จะไม่ให้ผมทำใจหน่อยหรือไงวะ” มันว่า

“อื้อ กูขอโทษ ขอโทษครับ” ผมว่าอะไรไม่ได้นอกจากคำว่าขอโทษ ทำอะไรไม่ได้นอกจากทรุดลงที่เตียงแล้วดึงแขนมันเข้ามาหา ไม่กล้ากอด ไม่กล้าจูบ กลัวโดนทำโทษมากกว่านี้

“พี่แม่ง…” มาร์คว่าออกมา ตาสวยตวัดมองผมแล้วผมก็ทำได้แค่สำนึกผิด

“มึงก็ไปหากู…”

“ไม่เกี่ยว มันเกี่ยวตรงก่อนไปนี่” มันว่าออกมาให้ผมได้หุบปากฉับ 

“กู…”

“อยู่เฉยๆ จนกว่าผมจะอนุญาต” มาร์คว่า มือขาวผลักผมให้นั่งขัดสมาธิอยู่กับเตียง แล้วไอ้เวรเอ๊ย! มันขึ้นมานั่งคร่อมผม

“มะ…มาร์ค กูว่า…”

“หุบปาก”

“อือออ” มันจะหุบปากได้ยังไงวะ ในเมื่อก้นนุ่มๆ นี่กำลังเบียดลงมา เบียดลงมาเป็นจังหวะที่ผมแทบจะขาดใจ

“อืม…อะ” มาร์คหยุดไปสักพัก แล้วผมเลยลืมตามอง 

ซึ่งการลืมตามองมาร์คตอนทำรักกับผมมันเป็นอะไรที่ผิดพลาดต่อจิตใจมากที่สุด เหมือนสวรรค์อยู่ตรงหน้าแต่นรกก็กระชากผมกลับหลุม คนตัวขาวกำลังถอดกางเกงขาสั้นนั้นออก มาร์คยืนอยู่บนเตียง ตรงหน้าผม และกำลังก้มปลดกางเกงออกจากปลายเท่า ต่อหน้าต่อตาผม

“มึง…”

“หึ!”

“อะ อือ อื้มมม”

“อืมมม”

แล้วการบดเบียดและเสียดสีของเนื้อหนังเราก็เริ่มขึ้นอีกครั้ง เป็นผมที่นั่งอยู่ที่เดิม จากขัดสมาธิเป็นแยกขาออกเล็กน้อยเพื่อรองรับคนที่กำลังบดตัวเองลงกับตัวผม แขนผมเท้ากับเตียงทั้งสองข้าง ไม่ใช่ว่าตั้งใจเท้าแต่สายตาเมียมันบอกให้ผมทำแบบนี้ อยากยกมือไปจับไปบีบแทบตายแต่โดนสายตาของมาร์คคาดโทษไว้ แล้วที่มากไปกว่านั้น ตอนที่มันกำลังเบียดเสียดสีผมอยู่ สายตายั่วๆ นั่นไม่ได้ละจากตาผมไปไหน

“มะ มาร์ค กู…จะตาย” จะตายจริงๆ มากกว่านี้อีกนิดหนึ่งใจผมระเบิดแน่

“หึ!” แค่เสียงหัวเราะในลำคอ กับสายตาพออกพอใจเท่านั้น ไม่มีการอนุญาตหรืออะไรอย่างอื่นทั้งนั้น

“มาร์ค ขอร้องงง” ผมอ้อนวอนมันอีกครั้ง แต่มาร์คยังทำหน้าตาลอยไปลอยมา

“อืม…”

“อื้อ! ไอ้…”

“อะ…” ทั้งผมทั้งมันต่างก็ต้องครางออกมาทั้งคู่ แต่เป็นผมที่ติดจะดุมันหน่อย เพราะยังไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไรทั้งนั้น แค่บดๆ เบียดๆ จนผมเกือบเสร็จแล้วมันก็ขยับเล็กน้อย ก่อนจะกดตัวเองเข้าหาผม 

“อื้อออ”

“อืมมม” ความอ่อนนุ่มกลืนกินผม และผมกำลังมองมัน ไล่ขึ้นมาที่กล้ามหน้าท้องที่เกร็งจนขึ้นลูกของมาร์ค คอที่ขึ้นเส้นสวย แล้วก็หน้าหล่อๆ ที่เชิดเล็กน้อยเพื่อสูดเอาอากาศ มาร์ควาดแขนมาโอบรอบคอผมแล้วลูบไปมาก่อนจะสอดเข้าไปในผมของผมแล้วทึ้งมันแรงๆ ตอนที่กดตัวเองเข้ามาได้จนสุด

“มาร์ค…”

“อื้อ!”

“ใจเย็น อื้อ!”

“อื้ม! อื้อ!”

“ที่รัก ใจเย็น กูเป็นของมึงมาร์ค”

“หุบปากไปเลย” หมดสิทธิ์ต่อรองทุกรูปแบบ 

ผมได้แต่เท้าแขนกับเตียงเพื่อรองรับจังหวะที่มาร์คมอบให้ ถ้าปล่อยแขนตัวเองตอนนี้คือผมต้องล้มลงไปที่เตียงแน่ๆ แล้วแบบนั้นมันต้องแย่แน่ๆ เพราะมาร์คไม่ได้สั่งให้นอน เมียกำลังชอบแบบนี้ก็ปล่อยไปแบบนี้ก่อน แม้ว่ามันจะรุนแรงเข้มข้นจนแทบจะขาดใจตายคาอกเมียตรงนี้ก็ตาม

“มาร์ค อื้อ”

“อืมมม”

“อ่า อื้ม!” ผมแอบขยับสะโพกแล้วมาร์ครู้ มันตวัดสายตามามองผมแล้วดุผ่านสายตานั้น มือที่กำผมอยู่ก็ทึ้งจนผมแทบจะหน้าแหงน

“บอกให้นิ่ง อื้อ! อ้า!”

“ครับ อื้อ” แล้วมานั่งบด นั่งเบียด นั่งครางแบบนี้ใครมันจะไปนิ่งไหววะ ปากว่าครับแต่ใจนี่ขยับเป็นจังหวะแล้ว

“พี่แม่ง…ใจร้าย” มาร์คมันตัดพ้อออกมา 

“อื้อ! คนดี ขอจูบ พี่ขอจูบ” ผมเอ่ยขอแล้วขยับหน้าเข้าไปหามัน มาร์คมันก็เหมือนจะไม่ยอมแต่สุดท้ายมือที่ขยำหัวผมอยู่ก็ค่อยๆ ลดลงมาที่คอ ดึงเอาคอผมเข้าไปหาแล้วบดปากลงมาหาผม

“อือ”

“อืมมม” จังหวะที่เคยเร็ว ร้อนแรง กลับเป็นเป็นเนิบช้าและหนักหน่วง 

มาร์คค่อยๆ ขยับเอว แล้วปล่อยให้ผมเป็นคนที่ค่อยๆ ขยับปาก เราค่อยๆ ป้อนจูบแล้วค่อยๆ ถ่ายทอดความรักให้กัน ไม่ใช่ว่ามีความโกรธแค้น แล้วตอนนี้มาร์คไม่ได้อยากเอาคืน มันแค่อยากย้ำ อยากย้ำกับผมว่าผมเป็นของใคร เหมือนกับผมที่ป้อนจูบให้มาร์คเพื่อย้ำกลับไปว่าผมเป็นของมัน เป็นเหมือนเดิมเพราะจูบแบบเดิม เพียงแต่ความรู้สึกมันมากขึ้น มากขึ้นกว่าเดิมมากๆ เพราะเรากำลังคิดถึงวันที่เราจะห่างกัน

“พี่วี…อื้อ อื้ม!”

“อือ อะ…มาร์ค” ผมปล่อยออกมาพร้อมๆ กับที่มาร์คปลดปล่อย มาร์คขยับเน้นหนักๆ อีกสองสามครั้งและนั่นแทบทำให้ผมหัวใจวาย ยิ่งตอนที่มันขยับลุก ผมยิ่งรู้สึกดี เหมือนลอยขึ้นไปบนสวรรค์แล้วค่อยๆ ลอยลงมา 

“อะ อื้อออ”

“อื้มมม” ผมตามไปจูบมาร์ค จูบคนที่นั่งหอบอยู่ตรงหน้าผม ไม่ได้อยากทรมานน้องแต่ตอนนี้มันต้องจูบจริงๆ นอกจากมาร์คจะเซ็กซี่มากๆ แล้ว เซ็กที่เราทำเมื่อกี้ผมอยากบตอกย้ำมัน ว่าไม่ใช่แค่ผมที่เป็นของมาร์ค แต่มาร์คเองก็เป็นของผม แค่ของผมเท่านั้น

“พี่ พี่วี…” 

“ขอโทษที่บอกช้า ขอโทษครับ” ผมบอกแล้วหอมแก้มมาร์คเบาๆ 

“ไม่โกรธแล้ว” คนตัวขาวว่า 

“กู…ผิดจริงๆ นี่” ผมบอก

“อือ”

“แต่เมื่อกี้มึงก็ทำโทษกูเกินไป”

“ตรงไหน?”

“กูเกือบหัวใจวายตายนะมาร์ค” ผมว่าตามตรง แล้วเหมือนว่าคนตรงหน้าเพิ่งคิดได้เพราะมันกำลังหน้าแดง

“พอ…เลย”

“หึ! ฟอด~” ผมหอมแก้มมาร์คแรงๆ อีกครั้งแล้วนั่งมองหน้ามันอยู่อย่างนี้

สบตาเพื่อบอกว่าผมเป็นของมัน สบตาเพื่อบอกว่าอดีตของผมไม่สามารถทำอะไรมันได้ ผมจะปกป้องมันจากอดีตที่เคยทำร้ายมัน แล้วอนาคตของผมก็คือของมาร์ค ของมาร์คคนเดียวเท่านั้น เพราะมาร์คผมถึงมีความตั้งใจจะไปทำอะไรแบบนั้น เพราะมาร์คทำให้ผมอยากได้อะไรที่มากกว่านี้ มากกว่านี้เพื่อที่จะดูแลมันให้ดีกว่านี้ให้ได้

“ผมรักพี่” มาร์คบอก มันบอกคำว่ารักออกมาท่ามกลางความเงียบของเรา เสียงเครื่องปรับอากาศเท่านั้นที่ทำงานแข่งกับเสียงหัวใจของผม ซึ่งมันเลวร้ายเหลือเกินเพราะหัวใจของผมเต้นแรงกว่าแอร์เย็นๆ นี่

“พี่ก็รัก รักมาร์คมากๆ” ผมบอกแล้วขยับเข้าหามาร์คอีกครั้ง

เราจูบกันอีกที แนบปากจนชิดแทบไม่มีช่องว่าง แนบไว้อย่างนั้นนานให้พอที่จะฟังเสียงหัวใจของเราสองคนตอนนี้ ขยับปากช้าๆ เพื่อบดจูบริมฝีปากของกันและกัน ส่งความหวานแทนคำพูดหลายร้อยหลายพันคำที่อยู่ในใจของเรา ไม่บ่อยที่เราจะพูดกันในเรื่องของความรู้สึก เพราะเราสองคนใช้การกระทำบอกแทนแทบทั้งหมด

“อื้ออออ”

“อืมมม” ผมจูบแล้วจูบอีก จูบตอนที่แผ่นหลังของมาร์คแนบกับเตียง ตามไปจูบจนมาร์คแทบจมไปกับเตียง มาร์คเองก็ไม่ได้ปล่อยผมออกไปไหน แม้ว่าเสื้อนอนสีเทาของมันจะยับยู่ยี่มันก็ไม่สนใจ ถ้าถอดทิ้งได้ตรงนี้คงถอดไปแล้ว

“พี่วี…”

“ครับผม”

“อีกรอบได้ไหม?”

“ได้อยู่แล้วครับ”

วันศุกร์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2563

Love Mechanics กลรักรุ่นพี่2 CH.2 #ตามใจบ้างได้ไหม?





Love Mechanics 
กลรักรุ่นพี่2 



CH.2
 #ตามใจบ้างได้ไหม?




มือยาวเลื่อนไปปรับอุณหภูมิน้ำก่อนจะเปิดให้น้ำไหลลงมาที่ตัวผม ผมหลับตาลงก่อนจะค่อยๆ เสยผมที่เปียกจนแนบหน้าขึ้น ขยับตัวเล็กน้อยเพื่อหาพื้นที่ให้จมูกได้หายใจ แล้วลมหายใจก็ต้องสะดุดเพราะลืมตาขึ้นแล้วเห็นพี่วี

พี่วีในสภาพที่เปลือยทั้งตัว

“พี่...”
“ทำไม”
“อาบ...” เสียงผมหายเข้าไปในลำคอเพราะต้องกลืนน้ำลาย พี่วีกระตุกยิ้มหล่อๆ แล้วขยับเข้ามาจนชิด 
“อาบน้ำกับมึงไง”
“อื้อ!” สิ้นเสียงทุ้มๆ นั่นพี่วีก็ประกบปากลงมาหาผมอีกครั้ง แล้วผมก็เชิดหน้าขึ้นรับจูบวาบหวามนั่นอีกครั้ง ไม่สนใจน้ำที่กำลังไหล ไม่สนใจผมที่กำลังเปียก ที่ผมสนใจตอนนี้คือปากหวานๆ ของพี่วี กับนิ้วเรียวๆ กำลังสอดเข้ามาในกางเกงผมอีกครั้ง
“ทีนี้ต้องถอดแล้วนะ เพราะจะอาบน้ำ” แก้มผมร้อนวาบ แล้วตัวผมเองก็ร้อนเหมือนกัน อาจจะเป็นเพราะน้ำมันร้อนเกินไป หรือไม่ก็อาจจะเป็นเพราะเสียงพร่าๆ ที่ดังอยู่ข้างหูผม
“อะ อือ...” เสียงครางหลุดออกมาผจากปากผมทั้งๆ ที่พยายามห้ามปากแล้ว มันอดไม่ได้จริงๆ ที่จะครางออกมาเมื่อนิ้วของพี่วีปัดไปโดนส่วนที่อยู่ใต้กางเกง
“ถอดยากว่ะ”
“พี่...อือออ~” แกล้งผม
คำพูดของผมมันชอบหายอยู่เรื่อย หายเพราะคนตรงหน้า แล้วตอนนี้มันหายเพราะว่ากลืนผมเข้าไป มันเกินไป ยากมาก ยากกว่าอะไรทั้งหมดเวลาที่พี่ผมทำแบบนี้ ผมแทบจะทรุดลงไปกับพื้น แทบจะทรุดลงไปพร้อมๆ กับกางเกงทุกชิ้นที่พี่วีถอด มันยังกองอยู่ข้อเท้าผมอยู่เลย มันยังติดอยู่ตรงนั้น แต่พี่วีกลับครอบปากลงมาแล้ว 
“อืมมม”
“พี่...พะ พอ...ก่อน” มือผมมันพยายามจะดันเขาออก แต่ให้ตายเถอะ เอวผมมันขยับเข้าหาปากเขา แล้วเขาเองก็เหมือนจะไม่อยากขยับออกเพราะแขนสวยนั่นกอดเอวผมเข้าหา
“อืม อุก...”
“อา อืมมม” สุดท้ายผมก็แพ้พี่วีเหมือนทุกครั้ง อยากปฏิเสธ อยากขอโอกาสเตรียมตัวก่อน แต่พอเขาทำให้แบบนี้ผมก็ยอมให้เขาทำตลอด 
“อืม...ดีไหม?” พี่วีผละออกแล้วเงยหน้าถาม ผมพยักหน้าให้แล้วเขาก็แทนที่ปากด้วยมือหนาๆ ของตัวเอง
“พี่...อื้อ!”
“พี่อะไร เรียกพี่ๆ อยู่นั่นแหละ”
“พี่วี...อื้อ พี่วี” แล้วผมก็เรียกชื่อเขาจนได้ ชื่อที่ผมเรียกบ่อยที่สุด ชื่อที่ผมอยากเรียกมากที่สุด
“อืม...จุ๊บ! อืม” มือหนายังทำหน้าที่เดิม ส่วนปากนุ่มๆ ของพี่เขาขยับเลื่อนขึ้นมาจากหน้าท้อง เหมือนจะจูบทุกที่ที่ปากลากผ่าน แล้วผมก็เกร็งทุกครั้งเวลาที่ถูกจูบ
“อา...อื้อ! พี่...เดี๋ยว อื้อ!” ไม่ทัน ห้ามไม่ทันและพี่วีก็ไม่หยุด ปากอุ่นขยับมาขบที่เม็ดตรงหน้าอกผม หน้าหล่อก้มต่ำและใช้ลิ้นโลมเลียตรงนั้น นิ้วเรียวยังทำหน้าที่ของมันอยู่ด้านล่าง ต่างจากผมที่ไม่รู้จะวางมือไว้ตรงไหน จนผมสอดมันเข้าไปในผมของพี่วี ขยำมันระบายอารมณ์ตอนนี้แล้วก็ดูเหมือนพี่วีจะยังไม่พอใจ
“พูด” เสียงเข้มสั่งแล้วผมก็ปรือตามอง หน้าหล่ออยู่ระดับเดียวกับสายตาของผม ดวงตาคู่สวยแพรวพราวจนผมไม่กล้าจะสบ แต่มือหนาปล่อยตัวผมแล้วเลื่อนมาจับคางผมไว้ เหมือนบังคับไม่ให้หลบเขา
“...พูดอะไร” ผมถามเบาๆ
“รู้สึกยังไง” พี่วีถามพร้อมๆ กับใช้นิ้วหัวแม่มือกดที่ริมฝีปากล่างของผมเบาๆ “มาร์ครู้สึกยังไงครับ” เสียงหล่อพูดอยู่ที่ข้างหูให้ผมได้เสียวสะท้าน ปลายลิ้นชื้นๆ แลบออกมาเลียที่ใบหูผมเบาๆ ให้ผมได้เกาะไหล่เขาแน่นขึ้น
“สะ...เสียว” ผมตอบออกไปพร้อมๆ กับซบหน้าลงที่ไหล่ของพี่วี “พี่วี...ผมเสียว”
“อือ กูทำให้เสียว”
“อื้อ! อะ” ผมขยับไปด้านหลังเมื่ออีกคนไซร้ซอกคอผม มือไม้ที่เคยอยู่นิ่งๆ ตอนนี้มันปัดป่ายไปทั่ว บีบไปทั้งตัวของผมและสุดท้ายก็ฟอนเฟ้นที่ก้นของผม 
“แน่นไปไหมวะ” พี่วีว่าเบาๆ หลังจากที่ขยำอยู่นาน 
มันก็ต้องแน่นอยู่แล้ว เพราะผมตั้งใจให้มันแน่น มันต้องมีกล้ามเนื้อเยอะอยู่แล้วเพราะผมตั้งใจสร้าง ผมรู้ว่าเขาชอบผมก็เลยทำให้เขาชอบ ชอบจับ ชอบบีบ ผมก็ไปทำให้ตัวเองน่าจับน่าบีบ ชอบกัด ชอบจูบ ผมก็ไปทำให้น่ากัดน่าจูบ ทั้งหมดก็เพราะไม่อยากให้เขาไปทำกับคนอื่น อยากให้เขารู้สึกว่ามีแค่ผมก็ให้เขาได้ทั้งหมดที่เขาต้องการแล้ว
“อื้อ~” ผมครางออกมายาวๆ เมื่อนิ้วเรียวค่อยๆ แทรกเข้ามาหา แต่เหมือนพี่วีจะทำยากเกินไปเขาเลยปล่อยไปก่อน ขยับปากจูบไปทั่วตัวจนผมแทบจะละลายเพราะลิ้นร้อนๆ ของเขา
“แน่นไปหมดทั้งตัวเลยนะ” พี่วีว่าอย่างนั้นแล้วค่อยๆ จับผมให้พลิกตัว แล้วหน้าผมก็แดงกว่าเดิมเมื่อเห็นสภาพตัวเองตอนนี้

เห็นมันผ่านกระจก

ผมที่ยาวกว่าเดิมมากๆ มันยุ่งเหยิงพันกันไปหมดและดวงตาของผมฉ่ำน้ำ ตอนแรกคิดว่าน้ำที่พี่วีเปิดแต่ไม่ใช่เพราะมันหยุดไหลตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ที่ไหล่ผมมีหน้าหล่อๆ ของอีกคนซุกอยู่ แขนของผมเกร็งจนเห็นเส้นเลือดสีเขียว มือเท้าอยู่กับขอบอ่างล้างหน้า แล้วพี่วีก็ค่อยๆ เลื่อนหน้าลงไปตามแผ่นหลังของผม ปากผมกลั้นเสียงคราง แต่ว่าสะโพกของผมกลับโก่งรอรับการปรนเปรนจากเขา
“อื้อ~ พี่วี~” เสียงเรียกชื่อพี่วีค่อยๆ ดังช้าๆ มันแผ่วเบาแต่ผมเชื่อว่าเขารับรู้ถึงความเสียวซ่านของผม พี่วีบีบที่สะโพกของผมก่อนจะยืนทาบทับผมจากทางด้านหลัง
“ว่าไงครับน้องมาร์ค” เสียงทุ้มถามที่ข้างหู แล้วจูบเบาๆ ที่หลังคอ
“ผม...อื้อ!” ผมโดนส่วนแข็งๆ ของพี่วีเบียด เบียดเข้ามาที่ซอกขาอย่างรู้ว่าเขาตั้งใจทำ
“ผมทำไมครับ”
“อื้อ~ ทำ...ทำเถอะ” ผมเอ่ยขอโดยที่พี่วีไม่ต้องบังคับ ทั้งผมและเขาเรารู้จักกันดี รู้ว่าใครต้องการและต้องทำยังไง รู้ว่าต้องจัดการและต้องเล้าโลมกันแบบไหน เราอยู่ด้วยกันนานและทำกันมาเยอะเกินกว่าจะเขินหรืออาย แต่น่าแปลกทุกครั้งที่ทำผมยังรู้สึกเขิน และทุกครั้งที่จะเอ่ยขอเขาผมก็ยังรู้สึกอาย
“ทำไม่ได้”
“อื้อ~”
“ทำให้พี่ก่อนได้ไหม” เสียงเจ้าชู้มาก เจ้าชู้มากๆ จนอยากบันทึกไว้ฟังอีกหลายๆ รอบ แต่ก็นั่นแหละ ตอนนี้ผมไม่มีเวลาเดินไปหยิบโทรศัพท์ ทำได้แค่หันกลับมาหาพี่วีแล้วคุกเข่าลงตรงหน้าเขา
“อืมมม” ค่อยๆ กลืนส่วนที่ชี้หน้าผมอยู่เข้าไปในปาก ความอุ่นของปากคงน้อยกว่าความร้อนของพี่วี แต่พี่เขาก็สูดปากแล้วพรูลมหายใจออกมาอย่างระบายอารมณ์
“อา...อุ่น” พี่วีว่าออกมาเบาๆ แล้วผมก็ค่อยๆ ขยับปาก ใช้ลิ้นในแบบที่เขาชอบ ใช้ปากในแบบที่จะทำให้เขาครางออกมาเหมือนที่ผมคราง
“อื้อ...อุก อือ” แม้มันจะยากไปหน่อยเพราะมันขยายจนเต็มปาก แต่ผมก็รู้สึกดีทุกครั้งที่ทำแล้วพี่วีเรียกชื่อผม เหมือนตอนนี้
“อา...มาร์ค อือ มาร์ค” ให้ทำจนปากช้ำปากฉีกผมก็ทำได้
“อื้อ อุก!”
“อา...อือ มาร์ค”
“ดีไหม” ผมขยับออกมาถาม แต่คนที่ถูกถามไม่ได้ตอบในทันที หน้าหล่อของเขาค่อยๆ กดลงมองผม แล้วมือหน้าที่เคยกดผมเข้าหาก็ดึงผมขึ้น
“ดีที่สุด”
“อื้อ~” เราจูบกันอีกครั้ง ไม่สิ พี่วีดึงผมเข้าไปจูบ จูบอย่างเร่าร้อนและรุนแรงบอกอารมณ์ของเขาตอนนี้ ไม่ต่างจากผมที่แทบจะระเบิดตัวเองเพราะความร้อนแรงของเรา
“อยากบอกว่ารักว่ะ” พี่เขาว่าหลังจากที่ปากเราห่างจากกัน
“ไม่เอา” ผมบอก แล้วกอดเอวพี่เขาไว้หลวมๆ
“ทำไม กูบอกรักมึงตอนนี้ไม่ได้เหรอ”
“ทำสิ ชัดกว่าพูดเยอะเลย”
“ปากเก่ง จุ๊บ!” พี่วีว่าแล้วจูบปากผมแรงๆ อีกที ผมไม่ได้ว่าอะไรกลับแค่กดจูบลงที่ไหล่ของเขาแรงไม่ต่างกัน ไม่ได้เก่งแค่ปาก อย่างอื่นก็เก่ง
“พี่วี…อย่าลีลา” ผมว่าเบาๆ แก้มก็ร้อนขึ้นๆ เหมือนใจที่ร้อนมากๆ เลยตอนนี้
“เข้าใจกูหรือยัง” เสียงทุ้มว่าที่ข้างหู ปากหวานก็คลอเคลียแถวคอผมไม่ห่าง
“ขะ เข้าใจแล้ว”
“งั้นทั้งคืนนะ”
“อื้อ~” ก็ได้แต่ส่งเสียงครางออกมาเป็นการตอบรับ เพราะคนที่ถามไม่ได้รอให้ผมปฏิเสธ ถามจบก็คือพลิกตัวผมให้หันไปหาอ่างล้างหน้าเหมือนเดิม สบตากับตัวเองอย่างอายๆ แล้วก็กลั้นเสียงครางยาวๆ เอพี่เขาค่อยๆ กดนิ้วเข้ามาหา
“อยากครางก็คราง” พี่วีว่าแล้วจูบที่ไหล่ของผม ไล่ลงไปเรื่อยๆ แล้ววนขึ้นมาจูบที่คอผมเหมือนเดิม ส่วนผมได้แค่จับขอบอ่างแน่นๆ แล้วพยายามผ่อนคลายเมื่อพี่เขาแทรกนิ้วเข้ามาเพิ่ม อยากคราง อยากเรียกชื่อพี่เขาแต่ตอนนี้มันทำได้แค่อ้าปากกว้างๆ แล้วพยายามหายใจ
“อื้อ…” พี่วีค่อยๆ ขยับมือแล้วผมก็หาเสียงตัวเองเจอเมื่อมือข้างหนึ่งของพี่เขาเลื่อนมาปรนเปรอส่วนข้างหน้าให้ผม
“เรียกชื่อพี่ดังๆ นะครับ” เสียงพร่าดังข้างหูผมอีก ก่อนที่นิ้วเรียวๆ จะถูกถอนออกไป
“อะ…” ผมขบริมฝีปากแรงๆ เมื่อส่วนแข็งๆ ของพี่วีแทรกเข้ามาอย่างช้าๆ พยายามไม่เกร็งแต่มันก็ยากเหลือเกิน สองสามครั้งที่พี่วีพยายามอยู่อย่างนั้น จนมันค่อยๆ เข้ามาในตัวผม มือผมจับที่ขอบอ่างล้างหน้าจนผมคิดว่าถ้าที่นี่ไม่ใช่ห้องน้ำ ถ้าที่นี่เป็นเตียงนอน ผ้าปูที่นอนคงขาด แล้วปากผมก็เม้มเข้าหากันเจ็บไปหมด ไม่ได้ตั้งใจจะเงยหน้าขึ้นมองตัวเอง ผมอยากหาอากาศหายใจเลยเงยหน้าขึ้นหาอากาศ แต่พอเงยขึ้นกลับเจอคนตัวแดงๆ ที่งอเหมือนกุ้งกำลังปรือตามองกลับมาอยู่ ส่วนข้างหลังมีคนหล่อๆ ที่ทำหน้าตาแบบอธิบายไม่ได้ รู้แค่ว่าคงกำลังพยายามไม่ต่างกัน พี่วีมองผมผ่านกระจกหลังจากกดตัวเองเข้ามาได้แล้ว ปลายนิ้วเรียวเลื่อนมากดที่ปากผมเบาๆ เพื่อย้ำขอในสิ่งที่บอกผมไป 

เรียกชื่อบ้าอะไร แค่หายใจยังยากเลย

“มาร์ค…” ยอม ยอมพี่วีจริงๆ กับเรื่องพวกนี้
“อื้อ ผมเจ็บอยู่” ผมว่าแล้วพยายามขยับหนี แต่ก็แค่นั้นแหละ แรงไม่มีไม่พอ มือหนายังเลื่อนไปจับเอวไว้สองมือแล้วขยับ
“อืมมม”
“อื้อ พี่วี! พี่…”
“อา…” 
“อืม มาร์ค อือ…” ผมกัดปากตัวเองอย่างไม่รู้ตัวเมื่อพี่วีขยับเร็วขึ้นกว่าเดิม
“พี่วี เบา…” ใครบอกจะอ่อนโยนวะ
“มึงยั่ว” ผมอยากจะถอนหายใจแรงๆ แต่ก็นั่นแหละ ทำได้แค่ครางเรียกชื่อเขา ยั่วอะไร ยั่วตรงไหน ตัวเองทำแรงทีไรมาโทษว่าผมยั่วตลอดทั้งๆ ที่พี่เขานั่นแหละทำให้ผมเป็นแบบนั้น ทั้งตัวของผมแค่เขาแตะมันก็ละลายแล้ว จะให้ผมบังคับมันได้ยังไง
“อื้อ~ พี่วี…อืมมม”
“อืมมม” พี่วีขยับมาจูบผม แล้วผมเองก็เอี้ยวตัวกลับไปจูบกับเขา เราจูบกันเพื่อที่จะบอกสิ่งที่เขาขอบอก พี่วีกำลังบอกว่ารักผม ผ่านทั้งปากแต่ไม่ได้พูด ผ่านการกระทำที่ไม่ได้อ่อนหวานแต่กลับรับรู้ถึงความหวานของมัน ผ่านจังหวะที่ไม่ได้อ่อนช้อยแต่กลับทำให้ตัวผมอ่อนระทวย ผ่านลมหายใจที่ร้อนไม่ต่างจากผมและมันทำให้ผมละลาย
“อะ อือ…” พี่วีผละออกมาให้ผมได้หายใจ ปล่อยให้ผมหันไปสนใจภาพในกระจกต่อ แต่มก็มองมันนานไม่ได้หรอก เห็นพี่วีคราง แล้วก็ปรือตามองตลอดแบบนั้นมันไม่ไหวเหมือนกัน
“อ่า…อืมมม”
“อื้อ เบา…”
“อืมมม เบา…แล้ว” โกหก! อยากจะตอบกลับไปแบบนั้นแต่มันทำไม่ได้
“อื้อ…พี่วี”
“อืมมม”
เสียงครางของผมดังสลับกับเสียงจูบของพี่วี ไม่ต่างจากเสียงเนื้อกระทบกันที่ดังไม่หยุด ไม่รู้ว่าพี่ทำแบบนั้นนานแค่ไหน แต่ขาผมแทบยืนไม่ไหวแล้ว ถ้าพี่เขาไม่จับเอวผมไหวผมคงไหลลงไปกองอยู่ที่พื้นห้องน้ำแน่ๆ แผ่นหลังของผมคงเป็นรอยแดง ก็ขอให้เขาปรานีผมหน่อย แต่ไม่รู้ว่าพี่มันจะทำน้อยๆ เป็นไหม
“อื้อ…อ้ะ อา…” ผมกระตุกเมื่อพี่วีขยับเน้นเข้ามา ผมเงยหน้าขึ้นสบตากับคนข้างหลังก่อนจะปลดปล่อยออกมาใส่มือของเขา พี่วีขยับให้ผมต่อแล้วขยับเอวตัวเองช้าๆ อีกครั้ง ช้าๆ หนักๆ เหมือนจะย้ำให้ผมรับรู้ถึงสิ่งที่เขาจะเอ่ยบอกคืนนี้
“อืมมม มาร์ค กูรัก…”
“อื้อ อะ…” ผมครางอีกรอบเมื่อรับรู้ถึงความอุ่นที่พี่วีปล่อยเข้ามา ผมซบหน้าลงกับขอบอ่างเมื่อพี่เขายังไม่หยุดขยับ มือสองมือของพี่วีอยู่ที่เอวของผม กดเข้าหาตัวเองเหมือนๆ ที่ตัวเขาเองก็ขยับหาผม ผมจะตายลงตรงนี้แล้ว จะตายกับความเนิบช้าแต่ว่าหนักแน่นของพี่วี
“รักมาร์ค”
“รู้แล้ว…”ผมตอบกลับด้วยเสียงที่แทบจะหายไปหมดแล้ว ขยับตัวแล้วหันกลับไปหาพี่วีก่อนจะเกาะไหล่เขาไว้ ผมไม่ใช่คนบอบบาง ใครๆ ก็รู้ว่าผมแข็งแรงมากแค่ไหน แต่พี่วีมันมากกว่าผมไง คนตรงหน้ามันมากกว่าผมหลายอย่างและมากกว่าอีกหลายเท่า ผมกลายเป็นคนอ่อนแอทันทีที่อยู่ข้างพี่วี ผมกลายเป็นคนไม่มีแรงทันทีที่มีคนตรงหน้าให้เกาะ
“ไม่บอกหน่อยเหรอ?” เสียงทุ้มว่าอยู่ข้างหูแล้วแขนแกร่งก็โอบที่เอวผมเพื่อช่วยยึดผม
“อื้อ~ รัก รักพี่วี” ผมพูดออกมาทันทีที่ถูกบีบย้ำที่เดิม พี่วีหัวเราะอย่างชอบใจก่อนจะผละมือออกจากบั้นท้ายผม 
“เดี๋ยวมาอาบน้ำกับพี่วีต่อนะ”
“พอแล้ว พอ…อื้อ~” ปากผมถูกจูบอีกครั้ง ไม่มีสิทธิ์ได้ปฏิเสธอย่างสมบูรณ์แบบ 
พี่วีพาผมมาที่ใต้ฝักบัวอีกครั้ง แขนยาวยื่นไปเปิดน้ำให้ราดรดลงตัวเราพร้อมๆ กัน แล้วเราก็จูบกันอยู่ใต้สายน้ำนั่น น้ำมันอุ่นแต่ผมกลับรู้สึกสดชื่น เสื้อผ้าไม่ได้ใส่แต่กลับรู้สึกร้อน พี่วีกดริมฝีปากเข้ามาหาอีก ย้ำจูบผมช้าๆ แล้วมอบลมหายใจให้ผมเหมือนที่ผมเองก็รับมันมา
“มีแรงขึ้นมาบ้างยัง” พี่วีขยับออกมาถาม
“พอแล้ว พรุ่งนี้ผมต้องตื่นเช้านะ” ผมบอกกลับ ถึงจะมีแรงแล้วแต่ไม่ได้หมายความว่าผมจะยอมให้เขาพรากวิญญาณผมอีก
“แค่จะอาบน้ำ” พี่วีว่าแล้วกดเอาครีมอาบน้ำ 
“พี่…อื้อ~” ผมสั่นไปทั้งตัวเมื่อมือของพี่วีเลื่อนลูบไปทั่วตัว ร้องครางเรียกชื่อเขาไม่หยุดทั้งๆ ที่เขาบอกว่าแค่จะอาบน้ำให้ ปากเขาบอกแบบนั้นแต่การกระทำมันไม่ใช่ไง ลูบแบบนั้นมันเรียกอาบน้ำที่ไหนวะ
“อืมมม เซ็กซี่ฉิบหาย” พี่มันบอกตอนที่เลื่อนมือมาที่ไหปลาร้าของผม ลูบไปเรื่อยๆ แล้วเลื่อนมาที่คอ ผมเงยหน้าขึ้นข้างบนแล้วพี่วีก็ลูบมาหยุดที่คางของผม
“พี่…พอ…” ผมเอ่ยขอเพราะรับรู้ถึงสิ่งที่ดันอยู่หน้าขา
“จะพอจริงเหรอ?”
“อื้อ~” นิ้วเรียวไต่ลงไปข้างล่างแล้วลากผ่านตัวของผมที่กำลังขยายไม่ต่างจากของเขา ผมกัดปากแล้วค่อยๆ ปล่อยเสียงครางออกมา
“ตามใจอยู่แล้ว” เสียงของคนเป็นต่อว่าแล้วขยับเล็กน้อยเพื่อดันให้ผมได้ล้างตัว หลังจากนั้นพี่มันก็ขยับมาแทนที่แล้วล้างฟองของครีมอาบน้ำออกตาม พอเรียบร้อยมือหนาก็เลื่อนไปปิดน้ำ เสียงน้ำที่กระทบพื้นหยุดลงแล้ว แต่เสียงหัวใจของผมยังไม่หยุด ยิ่งอาบน้ำเสร็จใหม่ๆ ยิ่งได้รับความเย็นจากอากาศรอบๆ ตัว ผมยิ่งรู้สึกมากขึ้น
“พี่วี…” ขาผมก้าวเข้าไปหาเขา มือผมเลื่อนไปจับแขนของคนที่มองผมอยู่ แล้วตาผมก็ช้อนมองตอนที่เรียกชื่อเขา
“ว่า?”
“ตามใจจริงๆ ไหม?” ผมถาม
“แน่นอน” เขาว่าออกมาแบบนั้น แล้วผมก็ขยับเข้าไปกระซิบที่ข้างหูของพี่วี
“ไปต่อที่เตียงได้ไหม?”
“ได้เสมอ”


วันศุกร์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2562

FUTURE วิศวะสุดหล่อขอหมอเป็นเมีย CH.31 #อนาคตเป็นของฟิวส์





FUTURE 
วิศวะสุดหล่อขอหมอเป็นเมีย 




CH.31 
#อนาคตเป็นของฟิวส์

“อือ…” ผมครางเมื่อปากบางประกบลงมาที่เม็ดตรงหน้าอก ผมเพิ่งรู้ว่ามันรู้สึกดีขนาดนี้ มันอดจะครางไม่ได้จริงๆ ตอนที่ถูกกระตุ้นด้วยลิ้นเล็กๆ นั้น
“จุ๊บ!”
“อ๊ะ!” พี่อนาดูดมันแรงๆ แล้วขยับเลื่อนลงตามลอนหน้าท้องที่กำลังเกร็งของผม คนตัวเล็กเลื่อนตัวลงไปเรื่อยๆ จนนั่งอยู่ที่พื้นปลายเตียง ผมเองก็ขยับตาม แยกขาให้พี่เขาถอดกางเกงออกให้
“อืมมม”
“อะ…อือออ” ผมครางเมื่อปากสวยครอบลงมาที่ตัวผมอย่างไม่รอช้า พี่อนาเลียมันยั่วอารมณ์ผม แล้วช้อนสายตาขึ้นมามอง แม่ง…โคตรอ้อน
ปากสวยปรนเปรอให้ผมอยู่อย่างนั้น ผมเองก็ครางรับสัมผัสของพี่เขาตลอดเวลาที่ลิ้นเล็กๆ นั้นขยับ เก่งจนตัวจะลอยมันเป็นแบบพี่อนานี่เอง ผมเลื่อนมือลงไปสอดผมนุ่มๆ ของพี่เขา พี่อนาช้อนสายตาขึ้นมาอ้อนผมที่กำลังปรือตามองพี่เขาอยู่ ปากครางชื่อพี่เขาแบไม่มีเสียงออกมา มองภาพคนน่ารักที่ปรนเปรอให้อย่างตั้งใจ ตรงไหนที่ผมกระตุก ตรงไหนที่ผมคราง พี่อนารู้หมดจนผมคิดว่าพี่เขาเรียนเรื่องกายของคนมากกว่าเรื่องฟันเสียอีก
“อื้อ อื้มมม” หัวที่ผงกขึ้นลง ตาที่เหลือบมองผมบ่อยๆ กับปากที่ขยับพลิ้วไหว เอาจริงๆ แค่พี่อนาจับผมก็แทบจะทรุดแล้ว
“อะ…อื้อออ” พี่อนาขยับออกจากตรงนั้น แทนที่ปากด้วยมือสวยๆ นิ้วเรียวขยับไปมา ปากบางประกบลงกับปากผม ดูดแรงๆ จนผมต้องหลับหูหลับตาซึมซับ คนสวยของผมผละออกจากปากมาคลอเคลียที่ข้างแก้ม จูบเบาๆ ก่อนเสียงพร่าจะดังเข้ามาในหูผม
“พี่รักฟิวส์”
“อา…” ผมกระตุกแล้วปล่อยมันออกมาจนเต็มมือพี่อนา หอบหายใจเพื่อบ่งบอกว่าเมื่อสักครู่ผมมีความสุขมากแค่ไหน
“พี่รักฟิวส์” ปากหวานยังพร่ำบอกรักผม มือสวยก็ยังขยับอยู่ ผมปรือตามมองแล้วค่อยดึงอีกคนออกจากตัว
“ผมก็รักพี่อนา” ผมว่าแล้วจูบปากสวยอีกครั้ง ประกบปากเข้าหากันแล้วเกี่ยวกระวัดลิ้นอีกที เอื้อมมือลงไปถอดกางเกงให้พี่เขาที่นั่งคร่อมผมอยู่ พี่อนาเองก็ยกตัวขึ้นให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี จนผมได้สัมผัสกับเนื้อนุ่มๆ ที่ท้าทายสายตาผมอยู่
“อื้อ~” เสียงหวานครางออกมาเมื่อผมบีบบั้นท้ายของพี่เขา ตัวแนบชิดเข้ามาจนแผ่นอกอยู่ระดับเดียวกับปากผม ผมครอบปากลงไปที่เม็ดสวยๆ ที่หน้าอกพี่อนา วนไปมาแถวนั้นแล้วดูดจนเนื้อขาวๆ ขึ้นสี มือยังคงบีบและนวดบั้นท้ายที่ขยับขึ้นลงยั่วยวนผม
“อืมมม” ผมฝากรอยไว้ที่คอพี่อนา พยุงอีกคนลุกขึ้นนั่งและผมเองก็ลุกขึ้นตาม พี่อนาโยกตัวขึ้นแล้วคล้องแขนที่คอผม ปล่อยให้กอบกุมส่วนอุ่นร้อนของพี่อยย่างเต็มมือ หน้าสวยเชิดขึ้นครางเมื่อผมทำมันพร้อมกับลูบวนที่ด้านหลัง
“อื้อ อ๊ะ…พอ” พี่อนาเอ่ยขอ ตาหวานปรือมองผม หน้าสวยกดลงมาแล้วอ้อนขอ
“ก็พี่น่าจับไปทั้งตัว ผมชอบเวลาพี่ยั่ว” ผมบอกกลับ
“ยังไม่ได้ยั่วสักหน่อย” ปากหวานว่าแล้วค่อยพยุงตัวเองขึ้นแต่ว่าไม่ได้ลุกจากตักผม
“อนาคต!” ผมเรียกเขาเสียงดังเมื่อปลายลิ้นแลบออกมาเลียริมฝีปากผม ตาหวานหรี่มองผม แล้วปากที่บอกว่าไม่ได้ยั่วก็ดูดนิ้วตัวเองเข้าไป เอวสวยขยับขึ้นลงจนอะไรต่อมิอะไรของเราสัมผัสกันไปทุกส่วน มุมปากสวยกระตุกขึ้นอย่างพอใจเมื่อเห็นหน้าผม
“แบบนี้…อื้อ~” นิ้วนั่นย้ายจากปากหวานๆ ลงไปที่ข้างล่าง “ถึงเรียกยั่ว” พี่อนากดตัวเองลงมากับนิ้ว มืออีกข้างจับที่ไหล่ของผมเพื่อพยุงตัวเอง ตาสวยปรือมองผม ปากบางๆ นั่นขบเข้าหากันอย่างยั่วเย้า
“พี่…” คำพูดผมหายไปในลำคอเมื่อเห็นสิ่งที่อีกคนทำ พี่อนาค่อยๆ ขยับขึ้นลงกับนิ้วของตัวเอง หน้าสวยเชิดขึ้นมองเพดานแล้วปากหวานๆ ก็ครางชื่อผม
“ฟิวส์ อ้า~ ฟะ…ฟิวส์…” เสียงครางผะแผ่วยามที่พี่เขากดตัวลงมันทำให้ผมต้องขบฟันแน่นขึ้นกว่าเดิม เพียงแค่เห็นหน้าแบบนี้ใจผมมันก็ไม่ดีแล้ว มาได้ยินแบบนี้ ได้เห็นพี่เขาทำแบบนี้ผมยิ่งอยากจะกระแทกตัวเองเข้าไปเร็วๆ แต่ถึงจะทรมานแค่ไหน แต่เห็นพี่อนาทำหน้าแทบจะทนไหวแบบนี้มันก็ทำให้ผมรู้สึกดีไปอีกแบบ
“พี่อนาครับ…” ผมเอ่ยขอ จับเอวสวยให้หยุดขยับเองแล้วขยับเข้าไปหา ดึงนิ้วเรียวเล็กนั่นออกก่อนจะค่อยๆ กดตัวพี่เขาลงมา
“อื้อ~”
“อ่า…” มันแน่นจนผมแทบจะขาดใจ แม้ว่านิ้วเรียวที่จิกไหล่ผมอยู่จะผลุบเข้าออกช่องทางนี้แล้ว แต่มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย มีแต่ทำให้พีพ่เขาขมิบรัดผมมากขึ้นก็เท่านั้น
“อื้มมม อ้า!” บั้นท้ายงอนกระแทกลงมาเองเหมือนกับผมที่เด้งสะโพกขึ้นไป
“อื้อ!” เราขยับเข้าชิดกันจนเหนื่อยหอบ ความอดทนของผมมันหมดลงเหมือนกันกับพี่อนา หน้าสวยนิ่วเพราะความเจ็บแต่ไม่ได้ปริปากบ่นออกมาสักคำ มีแค่เสียงครางในลำคอสลับกับเสียงหอบหายใจของเราสองคน
พี่อนาขยับขึ้นลงบนตัวผม เรายังอยู่ในท่านั่งซึ่งอีกคนเป็นคนควบคุม จังหวะไม่ได้เนิบช้าแต่ก็ไม่ได้เร็วมากเกินไป เสียงครางยังหลุดมาให้ได้ยิน ก่อนที่เราจะจูบกันอีกครั้ง เนิ่นนานและเริ่มจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เหมือนกับสะโพกที่กำลังขยับเข้าหากัน
“อ๊ะ!...อื้อ” พี่อนาผลักผมลงให้นอนราบ ตัวพี่เขาเองก็จัดท่าทางอีกครั้งก่อนจะวางมือลงที่แผ่นอกของผม คนตัวเล็กขย่มขึ้นลงจนผมต้องสูดลมหายใจเข้าท้องแรงๆ
“อื้อ พี่อนา…” ส่วนอุ่นร้อนของพี่เขาที่เข้ากับหน้าท้องของผมเป็นจังหวะเดียวกันกับการขยับ ผมเอื้อมมือไปสัมผัสมันก่อนจะปรนเปรอให้พี่เขาเหมือนกันกับจังวะขย่ม
“อ๊า!...ฟิวส์” หน้าสวยเชิดขึ้นครางแต่แรงไม่ได้ตกสักนิด ซ้ำยังรัดมากกว่าเดิมให้ผมได้ครางไม่หยุด
“อื้อ…พี่อนา เก่งมากครับ…” ผมเอ่ยชมพี่เขา หน้าที่แดงเพราะความเขินอายบิดมามองผม ปากสวยเม้มเข้าหากันเหมือนเขินมากกว่าเดิม
“อย่ามองแบบ…อ๊ะ! นั้น” ผมไม่รู้ว่าตัวเองมองพี่อนาแบบไหน แต่ที่รู้คือผมชอบมากๆ ชอบการทำรักกับพี่อนา ชอบี่ได้รักพี่อนา ชอบเวลาที่พี่อนาอยู่กับผม ดีใจที่เรื่องเซ็กส์สำหรับเราไม่มีปัญหาเลย แล้วมามีความสุขมากๆ อีกที่เรื่องพ่อแม่ไม่ได้เป็นปัญหา ยิ่งไปกว่านั้นผมรักพี่อนามากๆ มากจนไม่คิดว่าตัวเองจะรักได้
“อืม…” ผมครางเมื่ออีกคนเปลี่ยนจังหวะ ก้นสวยกำลังขยับควงไปมาบนตัวของผม
“อ๊า! ฟิวส์ อ๊า~
“อืม…พี่อนา” เสียงครางของเราดังสลับกัน แม้จังหวะจะเนิบช้าแต่ว่ามันกลับกระแทกเข้าไปในความรู้สึก พี่อนากัดริมฝีปากแล้วขยับอยู่อย่างนั้น ผมเองก็ขยับจังหวะเดียวกับพี่เขา เล็ยสวยจิกเข้าที่หน้าอกผมแรงๆ ก่อนจะกระตุกเกร็งแล้วปลดปล่อยออกมา
“อื้อ…อะ…อ๊า” แรงกระตุกทำให้ส่วนล่างของพี่เขาบีบรัดตัวผมมากกว่าเดิม มากจนผมทนไม่ไหวต้องปล่อยเข้าไปในตัวพี่เขาอย่างห้ามไม่ได้
“อา…” ผมครางออกมาเบาๆ ปรือตามองภาพอีกคนที่กำลังมีความสุขกับช่วงเวลานี้แล้วปลดปล่อยอามรมณ์ของตัวเองออกมาจนหมด
พี่อนาขยับเล็กน้อย แต่ผมก็ดื้อดึงเกินกว่าจะปล่อยพี่เขาไปในตอนนี้ ผมถึงได้ขยับตามแล้วฟังเสียงครางหวานๆ ตอนที่ตัวผมเข้าไปแล้วออกมา พี่อนาส่ายหน้าไปมาอย่างทนไม่ไหว ผมเลยยิ้มให้แล้วค่อยๆ ถอนตัวเองออกมาจากพี่เขา
“เหนื่อยแล้ว” เสียงหวานว่าเบาๆ พร้อมกับตัวบางๆ ของพี่อนาที่นอนลงมาทับตัวผม
“เหนื่อยแล้วนอนแบบนี้คิดว่าจะหายเหนื่อยเหรอ?” ผมถามแล้วก้มลงหอมผมสวยๆ ของพี่อนา

กลับไปคอมเมนต์กันได้นะคะ FUTURE วิศวะสุดหล่อขอหมอเป็นเมีย