วันอาทิตย์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

Love Mechanics กลรักรุ่นพี่2 CH.22 ที่ไม่เคยเปลี่ยนไป


Love Mechanics กลรักรุ่นพี่2






 

CH.22

ที่ไม่เคยเปลี่ยนไป



 





“พี่…อื้อ~” ปากสวยประกบลงมาหาผมทันทีที่ผมอ้าปาก ยังไม่เรียกชื่อเขาด้วยซ้ำแต่พี่วีก็กระแทกลงปากลงมาหาแล้ว คราวนี้เป็นพี่วีที่จูบ จูบแบบที่ไม่ยอมแพ้ผมในตอนนั้น จูบแบบที่ผมรู้เลยว่านี่คือการลงโทษจริงๆ

“เรียกชื่อพี่ให้ทันแล้วกัน” พี่วีว่า ตาคมก็มองผมอย่างท้าทายขณะที่พูดแบบนั้น

“พี่วี…” ผมเรียกชื่อพี่เขาเบาๆ แล้วช้อนตามองพี่วีอีกรอบ 

“อ่อยแค่กูแบบนี้ก็พอแล้ว”

“อื้อ พะ…พี่…” พี่วีซุกเข้ามาที่คอของผม ไซร้มันเบาๆ แต่ผมกลับรู้สึกอย่างรุนแรง

“อืมมม” พี่วีจูบตรงนั้น ขบตรงนี้ ผละออกแล้วซุกเข้าอยู่แบบนั้นเรื่อยๆ ส่วนผมที่นอนทอดตัวให้พี่เขาซุกก็ได้แต่บิดไปมาไม่หยุด

พี่วีไล่จูบจากคอมาเป็นไหล่ จากไหล่มาเป็นไหปลาร้า แล้วเลื่อนลงมาที่แผ่นอกของผม พี่วีดูดมันซ้ำๆ แล้วนิ้วเรียวๆ ของพี่เขาก็ตะตามตัวผมไม่หยุด ลูบไล้แล้วบีบเคล้นจนผมนอนเฉยๆ ไม่ได้

“อื้อ พี่วี…อ้ะ!” ผมสะดุ้งเกือบสุดตัวเมื่อลิ้นชื้นๆ นั่นแลบเลียที่เม็ดเล็กๆ บนอก พี่วีครอบมันเข้าไปในปาก ใช้ลิ้นสัมผัสกับมันอยู่อย่างนั้นจนผมรู้สึกถึงความแข็ง

“อืมมม”

“อื้อออ” เม็ดที่พี่วีบอกว่ามันเป็นสีชมพูแข็งจนสัมผัสกับอากาศแล้วผมรู้สึก

“หึ”

“อ๊ะ!” ผมกระตุกอีกครั้งเมื่อพี่วีแกล้งปัดนิ้วผ่านเม็ดแข็งๆ บนอกผม

“ทำไม”

“อื้อออ” ตอนแรกคิดว่าการลงโทษมันจะแค่รุนแรง แต่ไม่ใช่…พี่วีไม่ได้รุนแรงแต่พี่วีเน้นทุกส่วน เหมือนตอนนี้ที่ขยี้เม็ดบนอกผมอยู่

“มาร์คคค” เสียงกระเส่าเรียกชื่อผมที่ข้างหู นิ้วเรียวๆ ก็ยังสะกิดอยู่บนอกทั้งสองข้าง

“พี่วี! อื้อ อ๊ะ!...” ผมดิ้นพล่าน บิดไปมาจนเตียงคงยับไปหมด แต่พี่วีก็ยังกดนิ้วลงมาหนักๆ แล้วสลับก้มลงดูดมันแรงๆ 

“จุ๊บ! จ้วบ!”

“อื้อ!” ผมแอ่นตัวขึ้นเป็นอัตโนมัติ แอ่นอกขึ้นหาปากเขาอย่างห้ามไม่ได้ ไม่ได้ใช้สมองสั่งการเลยสักนิด เหมือนใช้ไขสันหลังล้วนๆ อีกแล้ว 

แค่ลิ้นพี่วีกระตุ้นตัวผมก็ตอบสนอง

“อืมมม”

“อือออ” ผมผ่อนลมหายใจเมื่อพี่วีปล่อยจากที่เดิมแล้ววนลิ้นไปที่ใหม่ ลากเลียลงไปเรื่อยๆ จนผมต้องเกร็งตัวตามทุกที่ที่พี่เขาลากผ่าน

“ก็ยังเป็นของกูทุกอย่างหนิ” พี่วีว่า หลังจากที่เงยหน้าขึ้นมองผม

“ก็ของพี่ ของพี่…อื้อ!” ผมบิดเร่าๆ เมื่อพี่เขาทำมากกว่าเดิม 

มือสวยเลื่อนผ่านตัวผมแล้วกุมมันเบาๆ ลูบไปมาจนผมอดไม่ได้ที่จะแยกขาออกให้เขา ปรือตามองคนที่วนเวียนกับส่วนนั้นของผม อยากจะยั่วเขาด้วยสายตาแต่ว่าตอนนี้เขาไม่ได้มองตาผม เขามองอย่างอื่นอยู่ ผมขยับเอวเล็กน้อยเมื่อพี่เคล้นหนักๆ ที่สะโพก ยกตัวขึ้นเล็กน้อยเมื่อเขาเหลือบตาขึ้นมามองผม

อยากทำหนักๆ ใช่ไหม ตามสบายเลยครับพ่อ

“หึ…ยั่วให้ตลอด” พี่วีว่า พร้อมกับมองมาที่ผมอย่างท้าทาย

“ก็ยั่วพี่ตลอดอยู่แล้ว” ผมบอก

“อืมมม”

“อื้อ!” ลิ้นเรียวละเลงลงไปที่ช่องทางของผม พี่วีค่อยๆ ขยับปาก มันช้ามากแต่กลับหนักหน่วง เน้นลงมาจนผมรู้สึกถึงความลึก แต่ก็นั่นแหละ ผมทำอะไรไม่ได้นอกจากอ้าปากครางและอ้าขาให้เขาทำต่อ

“อืมมม” พี่วีผละออกมา คนหล่อมองผลงานของตัวเองซึ่งก็คือผมที่นอนหอบอยู่ตรงนี้ พี่เขากระตุกยิ้มที่มุมปาก แล้วยื่นมือขึ้นมาเช็ดน้ำลายที่มุมปากของผม

“อื้มมม” ผมอ้ารับเอาลิ้นนั้นเข้ามาในปาก ดูดเลียมันช้าๆ จนชุ่มฉ่ำ ขบมันเขาๆ แล้วปรือตามองเขาที่ขบกรามอยู่ จะว่าพี่วีเป็นต่อเหรอ ไม่มีทางหรอก เรื่องแบบนี้ผมเองก็คิดว่าผมเด็ดพอตัว แต่ที่เป็นอยู่นี่ก็คืออยากเอาใจเขา อยากเอาใจพี่วีและอยากทำให้พี่วีเชื่อใจ 

เชื่อใจผมเหมือนเดิม

“เรียกชื่อกู” พี่วีบอก

“พี่วี…อื้อ~” ผมว่าออกมา ปลายนิ้วสวยที่ผมเคยดูดค่อยๆ แทรกเข้ามาในตัวผม

“ของใคร”

“พี่วี…” ผมว่าแล้วผ่อนลมหายใจออกมาอย่างช้าๆ เมื่อพี่วีแช่ค้างนิ้วสวยนั้นไว้และไม่มีท่าทีว่าจะยอมขยับ

“ใครนะ?”

“พี่วี…”

“จริงเหรอ?”

“อื้อออ พี่วี~” ผมเด้งเอวขึ้นอย่างห้ามตัวเองไม่ได้ เมื่อนิ้วสวยค่อยๆ ขยับเข้าออกอย่างช้าๆ

“ให้มันพี่วีตลอด” พี่วีว่าแล้วค่อยๆ ถอนนิ้ว

“อื้อ อื้อออ” ผมครางจนแทบไม่มีเสียงเมื่อสิ่งที่ใหญ่ว่านิ้วค่อยๆ แทรกเข้ามาในตัวผม ผมแอ่นสะโพกรับอย่างห้ามไม่ได้ แต่มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรได้มากมายนัก

“อย่าเกร็ง” พี่วีบอก แต่มันก็เท่านั้นแหละ เพราะตอนนี้ผมเจ็บมากๆ

“แน่น” ผมว่าออกมา แทบจะไม่มีเสียงอยู่แล้ว แต่ก็พยายามเค้นบอก

“อืมมม กูรู้” พี่วีว่าแต่ก็ไม่ได้ขยับไปไหน

“พี่วี~”

“อะไร?”

“ทำ ขยับนะครับ” ผมเอ่ยอ้อน แล้วบีบที่แขนพี่วีเบาๆ ก่อนจะขยับสะโพกของตัวเอง

“น้องมาร์คเป็นใครครับ” 

“อื้อ~” ผมครางเมื่อพี่วีถามหนึ่งคำถามพร้อมกับขยับหนักๆ ครั้งหนึ่ง

“หืมมม”

“อื้อออ”

“เป็นอะไรกับพี่วีครับ”

“อื้อ พี่วี~ ของพี่วี” ผมบอกพลางหอบหายใจหนัก

“อะไรของพี่วี”

“อื้อ~”

“หืม?”

“มะ…อื้ออ เมีย”

“อืมมม” พี่วีครางรับในลำคอ เมื่อผมตอบแล้วขยับตัวเข้าหา 

เอวสอบเริ่มขยับแต่ยังไม่มีท่าทีว่าจะรุนแรงสักนิด พี่วีเน้นหนักและขยับช้าๆ ผมแทบจะขาดใจตายอยู่แล้ว แทบจะตายกับพี่วีในจังหวะนี้แล้ว แต่ผมก็ยังหอบหายใจเอาอากาศเข้าปอด แล้วทอดตัวให้พี่วีกระทำแบบที่เขาอยากทำต่อไป อยากเอ่ยขอให้มากกว่านี้ แต่พี่วีมอบให้แค่ความเสียวกระสันผมก็ต้องยอมรับ

รับบทลงโทษของพี่เขาแต่โดยดี

“พี่วี~ อื้อออ พี่วี…” เสียงครางดังชัดพอๆ กับเสียงเรียกชื่อ เพราะทุกครั้งที่ขยับออกพี่วีขยับออกเกือบสุด แล้วพอขยับเข้าพี่วีก็ขยับเข้ามาลึกจนผมต้องเรียกชื่อพี่เขาดังๆ เพื่อขอให้พี่เขาทำแรงๆ

“อืมมม มาร์ค” แต่พี่วีก็ยังัชอบใจกับจังหวะเนิบช้าแต่หนักหน่วงนี้ เพราะพี่วียังย้ำต่อ ย้ำจุดที่ทำให้ผมครางแทบสุดเสียงแบบนี้ต่อ

“พี่วี อื้มมม อ้า~” เอวสอบขยับหมุน และการกระทำนั้นยังเชื่องช้าจนผมแทบขาดใจเหมือนเดิม

“อืมมม” พี่วีครางรับเมื่อผมสวนสะโพกกลับ หมุนรับกับสะโพกของเขาที่เน้นหนักไม่หยุด

“พี่…ผมจะ…อื้มมม” 

“จะอะไร หืมมม” พี่วีถามเสียงต่ำ เสียงหอบกระเส่าดังอยู่ข้างหู ปากพี่วีแนบลงที่ข้างแก้ม ลากเลียแล้วกดจูบพร้อมๆ กับข้างล่างที่ขยับไม่หยุด 

“ผม อื้มมม” ผมปลดปล่อยออกมาเมื่อพี่วีขบที่ติ่งหูของผมเบาๆ 

“อืมมม” แล้วผมก็ได้ยินเสียงครางต่ำๆ พร้อมกับรับรู้ถึงความอุ่นชื่นมากมายที่ด้านล่าง ผมทิ้งขาลงอย่างหมดแรง ทั้งๆ ที่แค่นอนเฉยๆ แต่มันก็เหมือนกับผมเป็นคนขยับอย่างหนักหน่วง ทั้งๆ ที่แค่ครางชื่อพี่วีกับขยับตามจังหวะหนักๆ นั่นมันก็ทำเอาผมแทบตายลงตรงนี้

“ผม…” ผมอยากขอน้ำดื่ม นมที่ดื่มไปเมื่อก่อนดึกมันไม่ได้ช่วยอะไรให้ผมอิ่มสักนนิด

วันจันทร์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2563

Love Mechanics กลรักรุ่นพี่2 CH.13 #คำสัญญา


Love Mechanics 

กลรักรุ่นพี่2 




 

CH.13

#คำสัญญา



“อืม จุ๊บ! จ๊วบ!” เข้าใจเมื่อคนตัวเล็กกว่าคุกเข่าลงไปแล้วครอบปากเข้ากับส่วนนั้นของผม เข้าใจเมื่อมันไม่ได้ค่อยๆ ไล่เลียงหรือละเลงเบาๆ มันดูดดุนและขบเม้ม ตวัดลิ้นเลียจนผมแทบจะขาดใจ นั่นมันทำให้ผมรู้ รู้ว่ามาร์คกำลังจะลงโทษผม

รางวัลเรียนจบเหรอ?

ไม่ตายคาอกมาร์ควันนี้ค่อยว่ากันอีกทีนะ

“มาร์ค เบา มาร์ค…” ผมพยายามขยับห่างแต่มันทำไม่ได้ เอวผมมันอยากขยับเข้าหาปากของมาร์คมันตลอดเลย แล้วมือผมที่น่าจะผลัมาร์คออกกลับดึงคอมันเข้ามาหาทุกจังหวะที่มันกดปากเข้ามา

“อือ…อืมมม อ่อก…”

“อือออ อ่า…” ผมปล่อยมันออกมาเพียงแค่มาร์คมันปาดลิ้นลงที่ส่วนปลาย แต่แทนที่จะปล่อยออกมานอกปากน้องกลับเผลอกดตัวเองเข้าไปในความอุ่นร้อนนั้น

“อืม” มาร์คขยับออกห่างจากผม มันนั่งลงกับพื้นหน้าตู้เสื้อผ้า ตาสวยช้อนมองผม แล้วการช้อนมองเหมือนโกระแบบนั้น โดยที่มุมปากยังติดคราบขาวๆ ของผมอยู่แบบนี้

“เด็กเหี้ย” ผมดุมันเบาๆ ยื่นมือไปเช็ดคราบน้ำนั่นออกแต่มาร์คสะบัดหน้าหนีแล้วใช้หลังมือเช็ดออกเอง

“ไม่ต้องมายุ่ง” เวร! ตายแน่ ผมนี่ตายแน่ๆ

“มาร์คครับ ฟังกูก่อน”

“ไม่ฟัง หยุดอยู่ตรงนั้นเลย” มาร์คบอก มือขาวโยนผ้าเช็ดตัวมาให้ผม แต่ผมก็แค่รับมันมาถือไว้ ขาที่จะเคยจิกอยู่กับพื้นกำลังเดินตามเมียไปที่เตียง ก็ถ้าหยุดตามที่มันพูดจริงๆ ผมคงใจขาดตายอยู่ตรงนี้ ทั้งโดนโกรธ แถมยังโดนทำโทษโดยการยั่วแล้วไม่…ทำอะไรผมต่อมากกว่านี้อีก 

“กูตั้งใจจะบอกมึงวันนี้ คือ…ขอโทษแหละ แต่ไม่รู้จะบอกยังไง” ผมบอกทั้งๆ ที่ยังยืนอยู่ปลายเตียง มองมาร์คที่ยังตวัดสายตามาหาเพื่อบ่งบอกว่างอนผม งอนแบบมากๆ เลยแหละ เพราะขนาดผมยืนเปลือยอยู่ตรงหน้ามันยังไม่มีเวลาเขินเลย

“แล้วเมื่อกี้บอกยังไง” มันว่า

“มึง...บังคับ”

“แล้วอีกเดือนเดียว พี่จะไม่ให้ผมทำใจหน่อยหรือไงวะ” มันว่า

“อื้อ กูขอโทษ ขอโทษครับ” ผมว่าอะไรไม่ได้นอกจากคำว่าขอโทษ ทำอะไรไม่ได้นอกจากทรุดลงที่เตียงแล้วดึงแขนมันเข้ามาหา ไม่กล้ากอด ไม่กล้าจูบ กลัวโดนทำโทษมากกว่านี้

“พี่แม่ง…” มาร์คว่าออกมา ตาสวยตวัดมองผมแล้วผมก็ทำได้แค่สำนึกผิด

“มึงก็ไปหากู…”

“ไม่เกี่ยว มันเกี่ยวตรงก่อนไปนี่” มันว่าออกมาให้ผมได้หุบปากฉับ 

“กู…”

“อยู่เฉยๆ จนกว่าผมจะอนุญาต” มาร์คว่า มือขาวผลักผมให้นั่งขัดสมาธิอยู่กับเตียง แล้วไอ้เวรเอ๊ย! มันขึ้นมานั่งคร่อมผม

“มะ…มาร์ค กูว่า…”

“หุบปาก”

“อือออ” มันจะหุบปากได้ยังไงวะ ในเมื่อก้นนุ่มๆ นี่กำลังเบียดลงมา เบียดลงมาเป็นจังหวะที่ผมแทบจะขาดใจ

“อืม…อะ” มาร์คหยุดไปสักพัก แล้วผมเลยลืมตามอง 

ซึ่งการลืมตามองมาร์คตอนทำรักกับผมมันเป็นอะไรที่ผิดพลาดต่อจิตใจมากที่สุด เหมือนสวรรค์อยู่ตรงหน้าแต่นรกก็กระชากผมกลับหลุม คนตัวขาวกำลังถอดกางเกงขาสั้นนั้นออก มาร์คยืนอยู่บนเตียง ตรงหน้าผม และกำลังก้มปลดกางเกงออกจากปลายเท่า ต่อหน้าต่อตาผม

“มึง…”

“หึ!”

“อะ อือ อื้มมม”

“อืมมม”

แล้วการบดเบียดและเสียดสีของเนื้อหนังเราก็เริ่มขึ้นอีกครั้ง เป็นผมที่นั่งอยู่ที่เดิม จากขัดสมาธิเป็นแยกขาออกเล็กน้อยเพื่อรองรับคนที่กำลังบดตัวเองลงกับตัวผม แขนผมเท้ากับเตียงทั้งสองข้าง ไม่ใช่ว่าตั้งใจเท้าแต่สายตาเมียมันบอกให้ผมทำแบบนี้ อยากยกมือไปจับไปบีบแทบตายแต่โดนสายตาของมาร์คคาดโทษไว้ แล้วที่มากไปกว่านั้น ตอนที่มันกำลังเบียดเสียดสีผมอยู่ สายตายั่วๆ นั่นไม่ได้ละจากตาผมไปไหน

“มะ มาร์ค กู…จะตาย” จะตายจริงๆ มากกว่านี้อีกนิดหนึ่งใจผมระเบิดแน่

“หึ!” แค่เสียงหัวเราะในลำคอ กับสายตาพออกพอใจเท่านั้น ไม่มีการอนุญาตหรืออะไรอย่างอื่นทั้งนั้น

“มาร์ค ขอร้องงง” ผมอ้อนวอนมันอีกครั้ง แต่มาร์คยังทำหน้าตาลอยไปลอยมา

“อืม…”

“อื้อ! ไอ้…”

“อะ…” ทั้งผมทั้งมันต่างก็ต้องครางออกมาทั้งคู่ แต่เป็นผมที่ติดจะดุมันหน่อย เพราะยังไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไรทั้งนั้น แค่บดๆ เบียดๆ จนผมเกือบเสร็จแล้วมันก็ขยับเล็กน้อย ก่อนจะกดตัวเองเข้าหาผม 

“อื้อออ”

“อืมมม” ความอ่อนนุ่มกลืนกินผม และผมกำลังมองมัน ไล่ขึ้นมาที่กล้ามหน้าท้องที่เกร็งจนขึ้นลูกของมาร์ค คอที่ขึ้นเส้นสวย แล้วก็หน้าหล่อๆ ที่เชิดเล็กน้อยเพื่อสูดเอาอากาศ มาร์ควาดแขนมาโอบรอบคอผมแล้วลูบไปมาก่อนจะสอดเข้าไปในผมของผมแล้วทึ้งมันแรงๆ ตอนที่กดตัวเองเข้ามาได้จนสุด

“มาร์ค…”

“อื้อ!”

“ใจเย็น อื้อ!”

“อื้ม! อื้อ!”

“ที่รัก ใจเย็น กูเป็นของมึงมาร์ค”

“หุบปากไปเลย” หมดสิทธิ์ต่อรองทุกรูปแบบ 

ผมได้แต่เท้าแขนกับเตียงเพื่อรองรับจังหวะที่มาร์คมอบให้ ถ้าปล่อยแขนตัวเองตอนนี้คือผมต้องล้มลงไปที่เตียงแน่ๆ แล้วแบบนั้นมันต้องแย่แน่ๆ เพราะมาร์คไม่ได้สั่งให้นอน เมียกำลังชอบแบบนี้ก็ปล่อยไปแบบนี้ก่อน แม้ว่ามันจะรุนแรงเข้มข้นจนแทบจะขาดใจตายคาอกเมียตรงนี้ก็ตาม

“มาร์ค อื้อ”

“อืมมม”

“อ่า อื้ม!” ผมแอบขยับสะโพกแล้วมาร์ครู้ มันตวัดสายตามามองผมแล้วดุผ่านสายตานั้น มือที่กำผมอยู่ก็ทึ้งจนผมแทบจะหน้าแหงน

“บอกให้นิ่ง อื้อ! อ้า!”

“ครับ อื้อ” แล้วมานั่งบด นั่งเบียด นั่งครางแบบนี้ใครมันจะไปนิ่งไหววะ ปากว่าครับแต่ใจนี่ขยับเป็นจังหวะแล้ว

“พี่แม่ง…ใจร้าย” มาร์คมันตัดพ้อออกมา 

“อื้อ! คนดี ขอจูบ พี่ขอจูบ” ผมเอ่ยขอแล้วขยับหน้าเข้าไปหามัน มาร์คมันก็เหมือนจะไม่ยอมแต่สุดท้ายมือที่ขยำหัวผมอยู่ก็ค่อยๆ ลดลงมาที่คอ ดึงเอาคอผมเข้าไปหาแล้วบดปากลงมาหาผม

“อือ”

“อืมมม” จังหวะที่เคยเร็ว ร้อนแรง กลับเป็นเป็นเนิบช้าและหนักหน่วง 

มาร์คค่อยๆ ขยับเอว แล้วปล่อยให้ผมเป็นคนที่ค่อยๆ ขยับปาก เราค่อยๆ ป้อนจูบแล้วค่อยๆ ถ่ายทอดความรักให้กัน ไม่ใช่ว่ามีความโกรธแค้น แล้วตอนนี้มาร์คไม่ได้อยากเอาคืน มันแค่อยากย้ำ อยากย้ำกับผมว่าผมเป็นของใคร เหมือนกับผมที่ป้อนจูบให้มาร์คเพื่อย้ำกลับไปว่าผมเป็นของมัน เป็นเหมือนเดิมเพราะจูบแบบเดิม เพียงแต่ความรู้สึกมันมากขึ้น มากขึ้นกว่าเดิมมากๆ เพราะเรากำลังคิดถึงวันที่เราจะห่างกัน

“พี่วี…อื้อ อื้ม!”

“อือ อะ…มาร์ค” ผมปล่อยออกมาพร้อมๆ กับที่มาร์คปลดปล่อย มาร์คขยับเน้นหนักๆ อีกสองสามครั้งและนั่นแทบทำให้ผมหัวใจวาย ยิ่งตอนที่มันขยับลุก ผมยิ่งรู้สึกดี เหมือนลอยขึ้นไปบนสวรรค์แล้วค่อยๆ ลอยลงมา 

“อะ อื้อออ”

“อื้มมม” ผมตามไปจูบมาร์ค จูบคนที่นั่งหอบอยู่ตรงหน้าผม ไม่ได้อยากทรมานน้องแต่ตอนนี้มันต้องจูบจริงๆ นอกจากมาร์คจะเซ็กซี่มากๆ แล้ว เซ็กที่เราทำเมื่อกี้ผมอยากบตอกย้ำมัน ว่าไม่ใช่แค่ผมที่เป็นของมาร์ค แต่มาร์คเองก็เป็นของผม แค่ของผมเท่านั้น

“พี่ พี่วี…” 

“ขอโทษที่บอกช้า ขอโทษครับ” ผมบอกแล้วหอมแก้มมาร์คเบาๆ 

“ไม่โกรธแล้ว” คนตัวขาวว่า 

“กู…ผิดจริงๆ นี่” ผมบอก

“อือ”

“แต่เมื่อกี้มึงก็ทำโทษกูเกินไป”

“ตรงไหน?”

“กูเกือบหัวใจวายตายนะมาร์ค” ผมว่าตามตรง แล้วเหมือนว่าคนตรงหน้าเพิ่งคิดได้เพราะมันกำลังหน้าแดง

“พอ…เลย”

“หึ! ฟอด~” ผมหอมแก้มมาร์คแรงๆ อีกครั้งแล้วนั่งมองหน้ามันอยู่อย่างนี้

สบตาเพื่อบอกว่าผมเป็นของมัน สบตาเพื่อบอกว่าอดีตของผมไม่สามารถทำอะไรมันได้ ผมจะปกป้องมันจากอดีตที่เคยทำร้ายมัน แล้วอนาคตของผมก็คือของมาร์ค ของมาร์คคนเดียวเท่านั้น เพราะมาร์คผมถึงมีความตั้งใจจะไปทำอะไรแบบนั้น เพราะมาร์คทำให้ผมอยากได้อะไรที่มากกว่านี้ มากกว่านี้เพื่อที่จะดูแลมันให้ดีกว่านี้ให้ได้

“ผมรักพี่” มาร์คบอก มันบอกคำว่ารักออกมาท่ามกลางความเงียบของเรา เสียงเครื่องปรับอากาศเท่านั้นที่ทำงานแข่งกับเสียงหัวใจของผม ซึ่งมันเลวร้ายเหลือเกินเพราะหัวใจของผมเต้นแรงกว่าแอร์เย็นๆ นี่

“พี่ก็รัก รักมาร์คมากๆ” ผมบอกแล้วขยับเข้าหามาร์คอีกครั้ง

เราจูบกันอีกที แนบปากจนชิดแทบไม่มีช่องว่าง แนบไว้อย่างนั้นนานให้พอที่จะฟังเสียงหัวใจของเราสองคนตอนนี้ ขยับปากช้าๆ เพื่อบดจูบริมฝีปากของกันและกัน ส่งความหวานแทนคำพูดหลายร้อยหลายพันคำที่อยู่ในใจของเรา ไม่บ่อยที่เราจะพูดกันในเรื่องของความรู้สึก เพราะเราสองคนใช้การกระทำบอกแทนแทบทั้งหมด

“อื้ออออ”

“อืมมม” ผมจูบแล้วจูบอีก จูบตอนที่แผ่นหลังของมาร์คแนบกับเตียง ตามไปจูบจนมาร์คแทบจมไปกับเตียง มาร์คเองก็ไม่ได้ปล่อยผมออกไปไหน แม้ว่าเสื้อนอนสีเทาของมันจะยับยู่ยี่มันก็ไม่สนใจ ถ้าถอดทิ้งได้ตรงนี้คงถอดไปแล้ว

“พี่วี…”

“ครับผม”

“อีกรอบได้ไหม?”

“ได้อยู่แล้วครับ”

วันศุกร์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2563

Love Mechanics กลรักรุ่นพี่2 CH.2 #ตามใจบ้างได้ไหม?





Love Mechanics 
กลรักรุ่นพี่2 



CH.2
 #ตามใจบ้างได้ไหม?




มือยาวเลื่อนไปปรับอุณหภูมิน้ำก่อนจะเปิดให้น้ำไหลลงมาที่ตัวผม ผมหลับตาลงก่อนจะค่อยๆ เสยผมที่เปียกจนแนบหน้าขึ้น ขยับตัวเล็กน้อยเพื่อหาพื้นที่ให้จมูกได้หายใจ แล้วลมหายใจก็ต้องสะดุดเพราะลืมตาขึ้นแล้วเห็นพี่วี

พี่วีในสภาพที่เปลือยทั้งตัว

“พี่...”
“ทำไม”
“อาบ...” เสียงผมหายเข้าไปในลำคอเพราะต้องกลืนน้ำลาย พี่วีกระตุกยิ้มหล่อๆ แล้วขยับเข้ามาจนชิด 
“อาบน้ำกับมึงไง”
“อื้อ!” สิ้นเสียงทุ้มๆ นั่นพี่วีก็ประกบปากลงมาหาผมอีกครั้ง แล้วผมก็เชิดหน้าขึ้นรับจูบวาบหวามนั่นอีกครั้ง ไม่สนใจน้ำที่กำลังไหล ไม่สนใจผมที่กำลังเปียก ที่ผมสนใจตอนนี้คือปากหวานๆ ของพี่วี กับนิ้วเรียวๆ กำลังสอดเข้ามาในกางเกงผมอีกครั้ง
“ทีนี้ต้องถอดแล้วนะ เพราะจะอาบน้ำ” แก้มผมร้อนวาบ แล้วตัวผมเองก็ร้อนเหมือนกัน อาจจะเป็นเพราะน้ำมันร้อนเกินไป หรือไม่ก็อาจจะเป็นเพราะเสียงพร่าๆ ที่ดังอยู่ข้างหูผม
“อะ อือ...” เสียงครางหลุดออกมาผจากปากผมทั้งๆ ที่พยายามห้ามปากแล้ว มันอดไม่ได้จริงๆ ที่จะครางออกมาเมื่อนิ้วของพี่วีปัดไปโดนส่วนที่อยู่ใต้กางเกง
“ถอดยากว่ะ”
“พี่...อือออ~” แกล้งผม
คำพูดของผมมันชอบหายอยู่เรื่อย หายเพราะคนตรงหน้า แล้วตอนนี้มันหายเพราะว่ากลืนผมเข้าไป มันเกินไป ยากมาก ยากกว่าอะไรทั้งหมดเวลาที่พี่ผมทำแบบนี้ ผมแทบจะทรุดลงไปกับพื้น แทบจะทรุดลงไปพร้อมๆ กับกางเกงทุกชิ้นที่พี่วีถอด มันยังกองอยู่ข้อเท้าผมอยู่เลย มันยังติดอยู่ตรงนั้น แต่พี่วีกลับครอบปากลงมาแล้ว 
“อืมมม”
“พี่...พะ พอ...ก่อน” มือผมมันพยายามจะดันเขาออก แต่ให้ตายเถอะ เอวผมมันขยับเข้าหาปากเขา แล้วเขาเองก็เหมือนจะไม่อยากขยับออกเพราะแขนสวยนั่นกอดเอวผมเข้าหา
“อืม อุก...”
“อา อืมมม” สุดท้ายผมก็แพ้พี่วีเหมือนทุกครั้ง อยากปฏิเสธ อยากขอโอกาสเตรียมตัวก่อน แต่พอเขาทำให้แบบนี้ผมก็ยอมให้เขาทำตลอด 
“อืม...ดีไหม?” พี่วีผละออกแล้วเงยหน้าถาม ผมพยักหน้าให้แล้วเขาก็แทนที่ปากด้วยมือหนาๆ ของตัวเอง
“พี่...อื้อ!”
“พี่อะไร เรียกพี่ๆ อยู่นั่นแหละ”
“พี่วี...อื้อ พี่วี” แล้วผมก็เรียกชื่อเขาจนได้ ชื่อที่ผมเรียกบ่อยที่สุด ชื่อที่ผมอยากเรียกมากที่สุด
“อืม...จุ๊บ! อืม” มือหนายังทำหน้าที่เดิม ส่วนปากนุ่มๆ ของพี่เขาขยับเลื่อนขึ้นมาจากหน้าท้อง เหมือนจะจูบทุกที่ที่ปากลากผ่าน แล้วผมก็เกร็งทุกครั้งเวลาที่ถูกจูบ
“อา...อื้อ! พี่...เดี๋ยว อื้อ!” ไม่ทัน ห้ามไม่ทันและพี่วีก็ไม่หยุด ปากอุ่นขยับมาขบที่เม็ดตรงหน้าอกผม หน้าหล่อก้มต่ำและใช้ลิ้นโลมเลียตรงนั้น นิ้วเรียวยังทำหน้าที่ของมันอยู่ด้านล่าง ต่างจากผมที่ไม่รู้จะวางมือไว้ตรงไหน จนผมสอดมันเข้าไปในผมของพี่วี ขยำมันระบายอารมณ์ตอนนี้แล้วก็ดูเหมือนพี่วีจะยังไม่พอใจ
“พูด” เสียงเข้มสั่งแล้วผมก็ปรือตามอง หน้าหล่ออยู่ระดับเดียวกับสายตาของผม ดวงตาคู่สวยแพรวพราวจนผมไม่กล้าจะสบ แต่มือหนาปล่อยตัวผมแล้วเลื่อนมาจับคางผมไว้ เหมือนบังคับไม่ให้หลบเขา
“...พูดอะไร” ผมถามเบาๆ
“รู้สึกยังไง” พี่วีถามพร้อมๆ กับใช้นิ้วหัวแม่มือกดที่ริมฝีปากล่างของผมเบาๆ “มาร์ครู้สึกยังไงครับ” เสียงหล่อพูดอยู่ที่ข้างหูให้ผมได้เสียวสะท้าน ปลายลิ้นชื้นๆ แลบออกมาเลียที่ใบหูผมเบาๆ ให้ผมได้เกาะไหล่เขาแน่นขึ้น
“สะ...เสียว” ผมตอบออกไปพร้อมๆ กับซบหน้าลงที่ไหล่ของพี่วี “พี่วี...ผมเสียว”
“อือ กูทำให้เสียว”
“อื้อ! อะ” ผมขยับไปด้านหลังเมื่ออีกคนไซร้ซอกคอผม มือไม้ที่เคยอยู่นิ่งๆ ตอนนี้มันปัดป่ายไปทั่ว บีบไปทั้งตัวของผมและสุดท้ายก็ฟอนเฟ้นที่ก้นของผม 
“แน่นไปไหมวะ” พี่วีว่าเบาๆ หลังจากที่ขยำอยู่นาน 
มันก็ต้องแน่นอยู่แล้ว เพราะผมตั้งใจให้มันแน่น มันต้องมีกล้ามเนื้อเยอะอยู่แล้วเพราะผมตั้งใจสร้าง ผมรู้ว่าเขาชอบผมก็เลยทำให้เขาชอบ ชอบจับ ชอบบีบ ผมก็ไปทำให้ตัวเองน่าจับน่าบีบ ชอบกัด ชอบจูบ ผมก็ไปทำให้น่ากัดน่าจูบ ทั้งหมดก็เพราะไม่อยากให้เขาไปทำกับคนอื่น อยากให้เขารู้สึกว่ามีแค่ผมก็ให้เขาได้ทั้งหมดที่เขาต้องการแล้ว
“อื้อ~” ผมครางออกมายาวๆ เมื่อนิ้วเรียวค่อยๆ แทรกเข้ามาหา แต่เหมือนพี่วีจะทำยากเกินไปเขาเลยปล่อยไปก่อน ขยับปากจูบไปทั่วตัวจนผมแทบจะละลายเพราะลิ้นร้อนๆ ของเขา
“แน่นไปหมดทั้งตัวเลยนะ” พี่วีว่าอย่างนั้นแล้วค่อยๆ จับผมให้พลิกตัว แล้วหน้าผมก็แดงกว่าเดิมเมื่อเห็นสภาพตัวเองตอนนี้

เห็นมันผ่านกระจก

ผมที่ยาวกว่าเดิมมากๆ มันยุ่งเหยิงพันกันไปหมดและดวงตาของผมฉ่ำน้ำ ตอนแรกคิดว่าน้ำที่พี่วีเปิดแต่ไม่ใช่เพราะมันหยุดไหลตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ที่ไหล่ผมมีหน้าหล่อๆ ของอีกคนซุกอยู่ แขนของผมเกร็งจนเห็นเส้นเลือดสีเขียว มือเท้าอยู่กับขอบอ่างล้างหน้า แล้วพี่วีก็ค่อยๆ เลื่อนหน้าลงไปตามแผ่นหลังของผม ปากผมกลั้นเสียงคราง แต่ว่าสะโพกของผมกลับโก่งรอรับการปรนเปรนจากเขา
“อื้อ~ พี่วี~” เสียงเรียกชื่อพี่วีค่อยๆ ดังช้าๆ มันแผ่วเบาแต่ผมเชื่อว่าเขารับรู้ถึงความเสียวซ่านของผม พี่วีบีบที่สะโพกของผมก่อนจะยืนทาบทับผมจากทางด้านหลัง
“ว่าไงครับน้องมาร์ค” เสียงทุ้มถามที่ข้างหู แล้วจูบเบาๆ ที่หลังคอ
“ผม...อื้อ!” ผมโดนส่วนแข็งๆ ของพี่วีเบียด เบียดเข้ามาที่ซอกขาอย่างรู้ว่าเขาตั้งใจทำ
“ผมทำไมครับ”
“อื้อ~ ทำ...ทำเถอะ” ผมเอ่ยขอโดยที่พี่วีไม่ต้องบังคับ ทั้งผมและเขาเรารู้จักกันดี รู้ว่าใครต้องการและต้องทำยังไง รู้ว่าต้องจัดการและต้องเล้าโลมกันแบบไหน เราอยู่ด้วยกันนานและทำกันมาเยอะเกินกว่าจะเขินหรืออาย แต่น่าแปลกทุกครั้งที่ทำผมยังรู้สึกเขิน และทุกครั้งที่จะเอ่ยขอเขาผมก็ยังรู้สึกอาย
“ทำไม่ได้”
“อื้อ~”
“ทำให้พี่ก่อนได้ไหม” เสียงเจ้าชู้มาก เจ้าชู้มากๆ จนอยากบันทึกไว้ฟังอีกหลายๆ รอบ แต่ก็นั่นแหละ ตอนนี้ผมไม่มีเวลาเดินไปหยิบโทรศัพท์ ทำได้แค่หันกลับมาหาพี่วีแล้วคุกเข่าลงตรงหน้าเขา
“อืมมม” ค่อยๆ กลืนส่วนที่ชี้หน้าผมอยู่เข้าไปในปาก ความอุ่นของปากคงน้อยกว่าความร้อนของพี่วี แต่พี่เขาก็สูดปากแล้วพรูลมหายใจออกมาอย่างระบายอารมณ์
“อา...อุ่น” พี่วีว่าออกมาเบาๆ แล้วผมก็ค่อยๆ ขยับปาก ใช้ลิ้นในแบบที่เขาชอบ ใช้ปากในแบบที่จะทำให้เขาครางออกมาเหมือนที่ผมคราง
“อื้อ...อุก อือ” แม้มันจะยากไปหน่อยเพราะมันขยายจนเต็มปาก แต่ผมก็รู้สึกดีทุกครั้งที่ทำแล้วพี่วีเรียกชื่อผม เหมือนตอนนี้
“อา...มาร์ค อือ มาร์ค” ให้ทำจนปากช้ำปากฉีกผมก็ทำได้
“อื้อ อุก!”
“อา...อือ มาร์ค”
“ดีไหม” ผมขยับออกมาถาม แต่คนที่ถูกถามไม่ได้ตอบในทันที หน้าหล่อของเขาค่อยๆ กดลงมองผม แล้วมือหน้าที่เคยกดผมเข้าหาก็ดึงผมขึ้น
“ดีที่สุด”
“อื้อ~” เราจูบกันอีกครั้ง ไม่สิ พี่วีดึงผมเข้าไปจูบ จูบอย่างเร่าร้อนและรุนแรงบอกอารมณ์ของเขาตอนนี้ ไม่ต่างจากผมที่แทบจะระเบิดตัวเองเพราะความร้อนแรงของเรา
“อยากบอกว่ารักว่ะ” พี่เขาว่าหลังจากที่ปากเราห่างจากกัน
“ไม่เอา” ผมบอก แล้วกอดเอวพี่เขาไว้หลวมๆ
“ทำไม กูบอกรักมึงตอนนี้ไม่ได้เหรอ”
“ทำสิ ชัดกว่าพูดเยอะเลย”
“ปากเก่ง จุ๊บ!” พี่วีว่าแล้วจูบปากผมแรงๆ อีกที ผมไม่ได้ว่าอะไรกลับแค่กดจูบลงที่ไหล่ของเขาแรงไม่ต่างกัน ไม่ได้เก่งแค่ปาก อย่างอื่นก็เก่ง
“พี่วี…อย่าลีลา” ผมว่าเบาๆ แก้มก็ร้อนขึ้นๆ เหมือนใจที่ร้อนมากๆ เลยตอนนี้
“เข้าใจกูหรือยัง” เสียงทุ้มว่าที่ข้างหู ปากหวานก็คลอเคลียแถวคอผมไม่ห่าง
“ขะ เข้าใจแล้ว”
“งั้นทั้งคืนนะ”
“อื้อ~” ก็ได้แต่ส่งเสียงครางออกมาเป็นการตอบรับ เพราะคนที่ถามไม่ได้รอให้ผมปฏิเสธ ถามจบก็คือพลิกตัวผมให้หันไปหาอ่างล้างหน้าเหมือนเดิม สบตากับตัวเองอย่างอายๆ แล้วก็กลั้นเสียงครางยาวๆ เอพี่เขาค่อยๆ กดนิ้วเข้ามาหา
“อยากครางก็คราง” พี่วีว่าแล้วจูบที่ไหล่ของผม ไล่ลงไปเรื่อยๆ แล้ววนขึ้นมาจูบที่คอผมเหมือนเดิม ส่วนผมได้แค่จับขอบอ่างแน่นๆ แล้วพยายามผ่อนคลายเมื่อพี่เขาแทรกนิ้วเข้ามาเพิ่ม อยากคราง อยากเรียกชื่อพี่เขาแต่ตอนนี้มันทำได้แค่อ้าปากกว้างๆ แล้วพยายามหายใจ
“อื้อ…” พี่วีค่อยๆ ขยับมือแล้วผมก็หาเสียงตัวเองเจอเมื่อมือข้างหนึ่งของพี่เขาเลื่อนมาปรนเปรอส่วนข้างหน้าให้ผม
“เรียกชื่อพี่ดังๆ นะครับ” เสียงพร่าดังข้างหูผมอีก ก่อนที่นิ้วเรียวๆ จะถูกถอนออกไป
“อะ…” ผมขบริมฝีปากแรงๆ เมื่อส่วนแข็งๆ ของพี่วีแทรกเข้ามาอย่างช้าๆ พยายามไม่เกร็งแต่มันก็ยากเหลือเกิน สองสามครั้งที่พี่วีพยายามอยู่อย่างนั้น จนมันค่อยๆ เข้ามาในตัวผม มือผมจับที่ขอบอ่างล้างหน้าจนผมคิดว่าถ้าที่นี่ไม่ใช่ห้องน้ำ ถ้าที่นี่เป็นเตียงนอน ผ้าปูที่นอนคงขาด แล้วปากผมก็เม้มเข้าหากันเจ็บไปหมด ไม่ได้ตั้งใจจะเงยหน้าขึ้นมองตัวเอง ผมอยากหาอากาศหายใจเลยเงยหน้าขึ้นหาอากาศ แต่พอเงยขึ้นกลับเจอคนตัวแดงๆ ที่งอเหมือนกุ้งกำลังปรือตามองกลับมาอยู่ ส่วนข้างหลังมีคนหล่อๆ ที่ทำหน้าตาแบบอธิบายไม่ได้ รู้แค่ว่าคงกำลังพยายามไม่ต่างกัน พี่วีมองผมผ่านกระจกหลังจากกดตัวเองเข้ามาได้แล้ว ปลายนิ้วเรียวเลื่อนมากดที่ปากผมเบาๆ เพื่อย้ำขอในสิ่งที่บอกผมไป 

เรียกชื่อบ้าอะไร แค่หายใจยังยากเลย

“มาร์ค…” ยอม ยอมพี่วีจริงๆ กับเรื่องพวกนี้
“อื้อ ผมเจ็บอยู่” ผมว่าแล้วพยายามขยับหนี แต่ก็แค่นั้นแหละ แรงไม่มีไม่พอ มือหนายังเลื่อนไปจับเอวไว้สองมือแล้วขยับ
“อืมมม”
“อื้อ พี่วี! พี่…”
“อา…” 
“อืม มาร์ค อือ…” ผมกัดปากตัวเองอย่างไม่รู้ตัวเมื่อพี่วีขยับเร็วขึ้นกว่าเดิม
“พี่วี เบา…” ใครบอกจะอ่อนโยนวะ
“มึงยั่ว” ผมอยากจะถอนหายใจแรงๆ แต่ก็นั่นแหละ ทำได้แค่ครางเรียกชื่อเขา ยั่วอะไร ยั่วตรงไหน ตัวเองทำแรงทีไรมาโทษว่าผมยั่วตลอดทั้งๆ ที่พี่เขานั่นแหละทำให้ผมเป็นแบบนั้น ทั้งตัวของผมแค่เขาแตะมันก็ละลายแล้ว จะให้ผมบังคับมันได้ยังไง
“อื้อ~ พี่วี…อืมมม”
“อืมมม” พี่วีขยับมาจูบผม แล้วผมเองก็เอี้ยวตัวกลับไปจูบกับเขา เราจูบกันเพื่อที่จะบอกสิ่งที่เขาขอบอก พี่วีกำลังบอกว่ารักผม ผ่านทั้งปากแต่ไม่ได้พูด ผ่านการกระทำที่ไม่ได้อ่อนหวานแต่กลับรับรู้ถึงความหวานของมัน ผ่านจังหวะที่ไม่ได้อ่อนช้อยแต่กลับทำให้ตัวผมอ่อนระทวย ผ่านลมหายใจที่ร้อนไม่ต่างจากผมและมันทำให้ผมละลาย
“อะ อือ…” พี่วีผละออกมาให้ผมได้หายใจ ปล่อยให้ผมหันไปสนใจภาพในกระจกต่อ แต่มก็มองมันนานไม่ได้หรอก เห็นพี่วีคราง แล้วก็ปรือตามองตลอดแบบนั้นมันไม่ไหวเหมือนกัน
“อ่า…อืมมม”
“อื้อ เบา…”
“อืมมม เบา…แล้ว” โกหก! อยากจะตอบกลับไปแบบนั้นแต่มันทำไม่ได้
“อื้อ…พี่วี”
“อืมมม”
เสียงครางของผมดังสลับกับเสียงจูบของพี่วี ไม่ต่างจากเสียงเนื้อกระทบกันที่ดังไม่หยุด ไม่รู้ว่าพี่ทำแบบนั้นนานแค่ไหน แต่ขาผมแทบยืนไม่ไหวแล้ว ถ้าพี่เขาไม่จับเอวผมไหวผมคงไหลลงไปกองอยู่ที่พื้นห้องน้ำแน่ๆ แผ่นหลังของผมคงเป็นรอยแดง ก็ขอให้เขาปรานีผมหน่อย แต่ไม่รู้ว่าพี่มันจะทำน้อยๆ เป็นไหม
“อื้อ…อ้ะ อา…” ผมกระตุกเมื่อพี่วีขยับเน้นเข้ามา ผมเงยหน้าขึ้นสบตากับคนข้างหลังก่อนจะปลดปล่อยออกมาใส่มือของเขา พี่วีขยับให้ผมต่อแล้วขยับเอวตัวเองช้าๆ อีกครั้ง ช้าๆ หนักๆ เหมือนจะย้ำให้ผมรับรู้ถึงสิ่งที่เขาจะเอ่ยบอกคืนนี้
“อืมมม มาร์ค กูรัก…”
“อื้อ อะ…” ผมครางอีกรอบเมื่อรับรู้ถึงความอุ่นที่พี่วีปล่อยเข้ามา ผมซบหน้าลงกับขอบอ่างเมื่อพี่เขายังไม่หยุดขยับ มือสองมือของพี่วีอยู่ที่เอวของผม กดเข้าหาตัวเองเหมือนๆ ที่ตัวเขาเองก็ขยับหาผม ผมจะตายลงตรงนี้แล้ว จะตายกับความเนิบช้าแต่ว่าหนักแน่นของพี่วี
“รักมาร์ค”
“รู้แล้ว…”ผมตอบกลับด้วยเสียงที่แทบจะหายไปหมดแล้ว ขยับตัวแล้วหันกลับไปหาพี่วีก่อนจะเกาะไหล่เขาไว้ ผมไม่ใช่คนบอบบาง ใครๆ ก็รู้ว่าผมแข็งแรงมากแค่ไหน แต่พี่วีมันมากกว่าผมไง คนตรงหน้ามันมากกว่าผมหลายอย่างและมากกว่าอีกหลายเท่า ผมกลายเป็นคนอ่อนแอทันทีที่อยู่ข้างพี่วี ผมกลายเป็นคนไม่มีแรงทันทีที่มีคนตรงหน้าให้เกาะ
“ไม่บอกหน่อยเหรอ?” เสียงทุ้มว่าอยู่ข้างหูแล้วแขนแกร่งก็โอบที่เอวผมเพื่อช่วยยึดผม
“อื้อ~ รัก รักพี่วี” ผมพูดออกมาทันทีที่ถูกบีบย้ำที่เดิม พี่วีหัวเราะอย่างชอบใจก่อนจะผละมือออกจากบั้นท้ายผม 
“เดี๋ยวมาอาบน้ำกับพี่วีต่อนะ”
“พอแล้ว พอ…อื้อ~” ปากผมถูกจูบอีกครั้ง ไม่มีสิทธิ์ได้ปฏิเสธอย่างสมบูรณ์แบบ 
พี่วีพาผมมาที่ใต้ฝักบัวอีกครั้ง แขนยาวยื่นไปเปิดน้ำให้ราดรดลงตัวเราพร้อมๆ กัน แล้วเราก็จูบกันอยู่ใต้สายน้ำนั่น น้ำมันอุ่นแต่ผมกลับรู้สึกสดชื่น เสื้อผ้าไม่ได้ใส่แต่กลับรู้สึกร้อน พี่วีกดริมฝีปากเข้ามาหาอีก ย้ำจูบผมช้าๆ แล้วมอบลมหายใจให้ผมเหมือนที่ผมเองก็รับมันมา
“มีแรงขึ้นมาบ้างยัง” พี่วีขยับออกมาถาม
“พอแล้ว พรุ่งนี้ผมต้องตื่นเช้านะ” ผมบอกกลับ ถึงจะมีแรงแล้วแต่ไม่ได้หมายความว่าผมจะยอมให้เขาพรากวิญญาณผมอีก
“แค่จะอาบน้ำ” พี่วีว่าแล้วกดเอาครีมอาบน้ำ 
“พี่…อื้อ~” ผมสั่นไปทั้งตัวเมื่อมือของพี่วีเลื่อนลูบไปทั่วตัว ร้องครางเรียกชื่อเขาไม่หยุดทั้งๆ ที่เขาบอกว่าแค่จะอาบน้ำให้ ปากเขาบอกแบบนั้นแต่การกระทำมันไม่ใช่ไง ลูบแบบนั้นมันเรียกอาบน้ำที่ไหนวะ
“อืมมม เซ็กซี่ฉิบหาย” พี่มันบอกตอนที่เลื่อนมือมาที่ไหปลาร้าของผม ลูบไปเรื่อยๆ แล้วเลื่อนมาที่คอ ผมเงยหน้าขึ้นข้างบนแล้วพี่วีก็ลูบมาหยุดที่คางของผม
“พี่…พอ…” ผมเอ่ยขอเพราะรับรู้ถึงสิ่งที่ดันอยู่หน้าขา
“จะพอจริงเหรอ?”
“อื้อ~” นิ้วเรียวไต่ลงไปข้างล่างแล้วลากผ่านตัวของผมที่กำลังขยายไม่ต่างจากของเขา ผมกัดปากแล้วค่อยๆ ปล่อยเสียงครางออกมา
“ตามใจอยู่แล้ว” เสียงของคนเป็นต่อว่าแล้วขยับเล็กน้อยเพื่อดันให้ผมได้ล้างตัว หลังจากนั้นพี่มันก็ขยับมาแทนที่แล้วล้างฟองของครีมอาบน้ำออกตาม พอเรียบร้อยมือหนาก็เลื่อนไปปิดน้ำ เสียงน้ำที่กระทบพื้นหยุดลงแล้ว แต่เสียงหัวใจของผมยังไม่หยุด ยิ่งอาบน้ำเสร็จใหม่ๆ ยิ่งได้รับความเย็นจากอากาศรอบๆ ตัว ผมยิ่งรู้สึกมากขึ้น
“พี่วี…” ขาผมก้าวเข้าไปหาเขา มือผมเลื่อนไปจับแขนของคนที่มองผมอยู่ แล้วตาผมก็ช้อนมองตอนที่เรียกชื่อเขา
“ว่า?”
“ตามใจจริงๆ ไหม?” ผมถาม
“แน่นอน” เขาว่าออกมาแบบนั้น แล้วผมก็ขยับเข้าไปกระซิบที่ข้างหูของพี่วี
“ไปต่อที่เตียงได้ไหม?”
“ได้เสมอ”